EA เดินหน้าสร้างรง.แบตเตอรี่เฟส 1 จับตางบ Q4 รับไฮซีซั่น

27 พ.ย. 2560 | 05:14 น.
EA เปิดแผนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ออกแบบโรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 เสร็จแล้วรอสรุปที่ตั้ง พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงงานมูลค่า 3 พันล้านบาท ตามแผน คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 62 จับตารายได้-กำไรไตรมาส 4 หลังพ้นหน้าฝน และมีลมแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้โซลาร์และวินด์ฟาร์มผลิตไฟได้เต็มกำลัง ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ จ่อเสียบปลั๊กไฟเข้าระบบปลายปี 61

[caption id="attachment_235715" align="aligncenter" width="336"] นายอมร ทรัพย์ทวีกุล นายอมร ทรัพย์ทวีกุล[/caption]

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ (Energy Storage) เฟส 1 กำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมก่อนเริ่มก่อสร้าง ทั้งนี้ คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2562 ส่วนเฟส 2 กำลังการผลิต 49 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) อยู่ระหว่างการเตรียมการร่วมกับพันธมิตร

“ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เราได้ออกแบบโรงงานแบตเตอรี่ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภายหลังจากได้ข้อสรุปเรื่องที่ตั้งโรงงานแล้ว ก็จะเตรียมการก่อสร้างต่อไป โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2562 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน ที่จังหวัดชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างเสร็จและ COD ในปลายปี 2561 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของบริษัทเท่ากับ 664 เมกะวัตต์” นายอมรกล่าว

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่าจะได้รับผลดีจากการผ่านพ้นช่วงฤดูฝน และเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นจากกระแสลมที่พัดแรงมากขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี ส่งผลต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ทั้งรายได้และกำไร

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิ 978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 260 ล้านบาท หรือ 36% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 718 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวน 2,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501 ล้านบาท หรือ 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2,422 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มงวดของโรงไฟฟ้า จ.พิษณุโลก กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ และการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จ.สงขลา และนครศรีธรรมราช กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ (โครงการหาดกังหัน 1-3) ส่งผลทำให้มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมกันจำนวน 404 เมกะวัตต์ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว