ปรับ ครม. เสริมทีมเศรษฐกิจ เดิมพัน! ‘บิ๊กตู่’ คัมแบ็คสมัย 2
ฐานการเมือง | ภาพ ‘น้องตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควง ‘พี่ป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ ที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ภายหลัง ‘บิ๊กป้อม’ ถูกกระแสสังคมกระหน่ำอย่างแรงว่า ถูก ‘บิ๊กตู่’ ยึดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหลือตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ตอบแทนพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์เพียงเก้าอี้เดียว
บรรยากาศความชื่นมื่นล่าสุด เป็นอันสยบข่าวลือได้ระดับหนึ่ง ก่อนที่ ‘บิ๊กตู่’ จะยอมรับเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ได้นำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว
เป็นอันว่า โผ ครม. ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ยังอยู่ยงคงกระพันในเก้าอี้เดิม ส่วน ‘บิ๊กฉัตร’ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ยังมีชื่อร่วม ‘ครม.ประยุทธ์ 5’ แต่หลายกระแสออกมาในทิศทางสอดคล้องกันว่า มีโอกาสถูกโยกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นงานที่ พล.อ.ฉัตรชัย มีประสบการณ์มาก่อน
อีกนัยหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ลุยงานได้เต็มที่ หลังจากรัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักเรื่องปัญหาปากท้อง และสินค้าเกษตรตกต่ำ กระทั่งนำมาสู่การจัดทัพใหม่ใน ‘กระทรวงด้านเศรษฐกิจ’ เพื่อดึงผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์แต่ละด้าน มาทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นความต้องการนายกรัฐมนตรี จึงไม่มีการปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจภายใต้การนำของสมคิด แต่เปิดโอกาสให้เสริมทีมเศรษฐกิจ เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน
| ดัน ‘สมชาย’ ช่วยงาน ‘อุตตม’ |
โดยกระทรวงเศรษฐกิจหลัก อย่าง กระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ยังคงทำหน้าที่ ‘ขุนคลัง’ ตามเดิม เนื่องจากมีผลงานโดดเด่นในการปฏิวัติระบบการเงินของไทย ‘การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Payment)’ และวางรากฐานระบบบัญชีเดียวให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี การออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้ง นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ยังเป็น รมช.กระทรวงการคลัง เหมือนเดิม
นายอุตตม สาวนายน ยังเป็น รมว.อุตสาหกรรม เนื่องจากมีผลงานโดดเด่นด้านอีอีซีอย่างต่อเนื่อง น่าจะขับเคลื่อนนโยบายต่อไป โดยเฉพาะปี 2561 ที่จะมีการเคลื่อนไหวด้านการลงทุนเกิดขึ้นจำนวนมาก
ขณะที่ นายสมชาย หาญหิรัญ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หลังเกษียณได้ถูกดึงมาตัวมาช่วยงานเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม แต่เพียงไม่กี่เดือน ก็ได้ขยับขึ้นเป็น รมช.อุตสาหกรรม เข้ามาสานต่องานในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ หรือ New S-curve ให้ขยายตัว โดยเฉพาะการพัฒนาเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เพราะอยู่เบื้องหลังงานสำเร็จหลายด้าน ทั้งงานด้านบริหาร ด้านนโยบายและงานทางวิชาการ
| ดึง ‘ลักษณ์’ เชื่อมเกษตรกร |
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในโควต้าพรรคชาติไทย (ปัจจุบันใช้ชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา) ภายหลังการเสียชีวิตของ นายชุมพล ศิลปอาชา การปรับ ครม. ครั้งนี้ มีชื่อ นายยุคล ติดโผได้กลับมาคุมกระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง
ขณะที่ นายลักษณ์ วจนานวัช อดีตผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ติดโผเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยคัดค้านการนำสภาพคล่องของธนาคารรัฐ ทั้ง ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ไปใช้เงินคืนในโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะเกินภาระการก่อหนี้การคลัง ว่ากันว่า นายสมคิดเป็นคนเลือกเอง เพื่อเข้าไปทำหน้าที่เชื่อมเครือข่ายเกษตรกรชาวนา ชาวสวนยาง และสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างมูลค่าของรายได้ให้ดีขึ้น แทนที่จะพึ่งพาการส่งออก
| ‘วีระศักดิ์’ สร้างรายได้ท่องเที่ยว |
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ ครั้งนี้ติดโผ ได้ขยับเป็น รมว.พาณิชย์ จาก รมช.เกษตรฯ กลับถิ่นเดิมในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เพื่อทำงานที่ถนัดด้านต่างประเทศ
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ยังเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพราะมีผลงานด้านการผลักดัน สตาร์ทอัพในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โครงการเน็ตประชารัฐ และจัดตั้งสถาบันไอโอทีแห่งชาติ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ติดโผเป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แทน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร หลังจากเคยเป็นเจ้ากระทรวงนี้มาแล้ว ในโควต้าของพรรคชาติไทย (ขณะนั้น) มีความโดดเด่นในงานด้านการเพิ่มรายได้ทางการท่องเท่ียวในตลาดต่างประเทศ เป็นนักคิด นักยุทธศาสตร์ และนักวิชาการด้านกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ โยกจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคยเป็นทั้งศิษย์เอกและทำหน้าที่ปรึกษานายสมคิด และเคยเป็น รมช.พาณิชย์ รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในการปฏิรูปประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ก่อนจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับมอบหมายจากนายกฯ ให้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานด้านยุทธศาสตร์ที่สำคัญ
| ‘กอบศักดิ์’ ขึ้นชั้นทีมเศรษฐกิจ |
นายกอบศักด์ ภูตระกูล ขยับจาก ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เต็มตัว เพื่อช่วยงานนายสมคิด เกี่ยวกับการวางโครสร้างพื้นฐานประเทศ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และมีบทบาทสูงในรัฐบาล ทำหน้าที่แถลงมติ ครม.เศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล
| ‘อาคม’ ยังเหนียวคมนาคม |
ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่น ที่ไม่ได้มาจากโควต้ารองนายกรัฐมนตรีสมคิด มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเช่นกัน ดังนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ยังต้องอยู่ต่อ เพื่อเร่งดึงเม็ดเงินกว่า 2-3 ล้านล้านบาท ของโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ให้เปิดประมูลได้ก่อนสิ้นปีนี้ ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มากระตุ้นการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ถูกวางตัวให้กลับมาดูแลกระทรวงพลังงานอีกครั้ง คราวนี้ติดโผผงาดเป็น รมว.พลังงาน เพราะมีประสบการณ์จากการทำหน้าที่ปลัดกระทรวงพลังงาน ช่วงยุคต้นของรัฐบาลประยุทธ์ จากนั้นถูกโยกไปเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) ในเวลาอันสั้น 49 วัน ต่อมาไปเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีก 78 วัน ก่อนจะถูกดึงกลับมาเป็นปลัดกระทรวงพลังงานอีกครั้ง ก่อนเกษียณอายุราชการเมื่อเดือน ก.ย. 2560
ทั้งหมดเป็นโฉมหน้ารัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจทั้งคนเก่าและคนใหม่ ซึ่งทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด นอกจากจะยังอยู่กันครบแล้ว ยังได้ ‘คนใหม่’ มาเสริมช่วยทีมอีกด้วย
เรียกได้ว่า ปรับ ครม. ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้น้ำหนักกับ ‘ทีมสมคิด’ มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งช่วงปลายปี 2561 อันจะเป็นการปูทาง ‘คัมแบ็ค’ ในเก้าอี้นายกฯ สมัย 2 ได้หรือไม่?
