กกพ.ประกาศ SPP Hybrid Firm 42 โครงการ ผ่านเทคนิค

24 พ.ย. 2560 | 07:32 น.
กกพ.ประกาศ SPP Hybrid Firm 42 โครงการ ผ่านเทคนิค ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 เมกะวัตต์

[caption id="attachment_234841" align="aligncenter" width="259"] นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต[/caption]

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน กกพ. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการคัดเลือกโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 ล่าสุดพบว่ามีผู้เสนอขายไฟฟ้า SPP Hybrid Firm ปี 2560 จากทั่วประเทศ จำนวน 42 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 เมกะวัตต์ โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 755.3 เมกะวัตต์ ผ่านการพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิค เพื่อที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคา โดยกำหนดจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560

โดยก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ายื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจากโครงการ SPP Hybrid Firm เมื่อวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้มีผู้มายื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจำนวน 85 โครงการ ซึ่งจากการตรวจสอบคุณสมบัติและประเมินข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค พบว่า มีโครงการที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจำนวน 42 โครงการ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,062.2 เมกะวัตต์ โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 755.3 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกอีก 43 โครงการนั้น จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ได้ยื่นมา พบว่า เอกสารหลักฐานขาดความสมบูรณ์ ไม่ถูกต้องครบถ้วน และไม่เป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนด อาทิ ไม่มีความพร้อมด้านเชื้อเพลิง ที่ดิน และแหล่งเงินทุนในการประกอบกิจการ เป็นต้น

แบนเนอร์วิทยุฐานเศรษฐกิจ “โครงการนี้เป็นการรับซื้อแบบ Feed-in Tariffs หรือ FiT ในอัตราการรับซื้อไฟฟ้าเริ่มต้นที่ 3.66 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นอัตรา FiT คงที่ 1.81 บาทต่อหน่วย และอัตรา FiT ผันแปร 1.85 บาทต่อหน่วย (ตามอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากปี 2560) ซึ่งจะแข่งกันทุกประเภทเชื้อเพลิงโดยให้ผู้ยื่นข้อคำร้องเสนอส่วนลด (%) จากอัตรา FiT คงที่ ซึ่งหลังจากนี้ สำนักงาน กกพ. จะพิจารณาข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคา โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินข้อเสนอขายไฟฟ้าด้านราคา และจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ.” นางสาวนฤภัทร กล่าว

ทั้งนี้หลังจากประกาศผลการคัดเลือกแล้ว ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการต้องเร่งดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือรายงานการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Code of Practice: CoP) ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทันกำหนดวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 และสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ถึงภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว