กสิกรไทยคงคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่ 4%

24 พ.ย. 2560 | 04:41 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่ 4% แม้ 10 เดือนแรกของปีนี้ การขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยจะเติบโตเพียง 1.86% จากสิ้นปีก่อน โดยสินเชื่อสุทธิเดือน ต.ค. 2560 ขยายตัวจากการเบิกใช้สินเชื่อภาครัฐ ขณะที่เงินฝากโตเหนือสินเชื่อกว่า 2 เท่าตัว ทำให้สภาพคล่องผ่อนคลายลง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2560 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

สินเชื่อสุทธิเดือน ต.ค. 2560 เพิ่มขึ้นจากการเบิกใช้สินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก

ภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือน ต.ค. 2560 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 7.3 หมื่นล้านบาท เป็น 10.799 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่ม 0.68% MoM และเพิ่มจากระยะเดียวกันปีก่อน 2.63% YoY โดยการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อในเดือนนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นผลจากการรับโอนสินเชื่อรายย่อยจากดีลระหว่างระหว่างธนาคารทิสโก้กับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ขณะที่หากไม่รวมผลของรายการพิเศษดังกล่าว ภาพรวมสินเชื่อสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเบิกใช้สินเชื่อภาครัฐ ส่วนสินเชื่อประเภทอื่นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย ทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจ สินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็มอี เนื่องจากสินเชื่อภาคธุรกิจของธนาคารขนาดใหญ่ยังมีสถานะเป็นการชำระคืนสุทธิ ส่วนสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นค่อนข้างช้าซึ่งส่วนหนึ่งถูกกระทบจากมาตรการกำกับการให้สินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน

อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมสินเชื่อสุทธิหลังผ่าน 10 เดือนแรกของปีนี้ จะมีอัตราเติบโตเพียง 1.86% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน จากสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ยังโตต่ำกว่าคาด แต่ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย จะขยายตัวเร่งขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ อันเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลและแผนการเบิกใช้สินเชื่อปกติ อีกทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐช่วงท้ายปี และความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการเติบโตดีขึ้นกว่าที่คาดไว้

เงินฝากเดือน ต.ค. 2560 เพิ่มขึ้นกว่า 1.8 แสนล้านบาท จากเงินฝากภาครัฐและเงินฝากประจำระยะสั้น

ภาพรวมเงินฝากเดือน ต.ค. 2560 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนกว่า 1.8 แสนล้านบาท หรือ 1.58% MoM เป็น 11.886 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนและสิ้นปีก่อน 4.6% โดยเพิ่มขึ้นในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เป็นหลัก ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งมาจากเงินฝากภาครัฐที่ไหลเข้ามาพักในช่วงต้นปีงบประมาณเพื่อรอการเบิกจ่าย และอีกกว่า 6 หมื่นล้านบาทจากเงินฝากประจำระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งไม่ได้เป็นผลจากการแข่งขัน/ออกแคมเปญเงินฝากพิเศษ

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว สภาพคล่องเดือน ต.ค. 2560 ผ่อนคลายลง

ภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารผ่อนคลายลง เนื่องจากเงินฝากเพิ่มขึ้นในจำนวนที่สูงกว่าสินเชื่อ 2.5 เท่า ทำให้สัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ในเดือน ต.ค. 2560 ผ่อนคลายลงมาที่ 90.46% จากระดับ 91.23% ในเดือน ก.ย. สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ปรับขึ้นมาที่ 22.20% จากระดับ 21.52% ในเดือนก่อนหน้า

แนวโน้มสินเชื่อในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี: คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะสินเชื่อที่สัมพันธ์กับการส่งออกและสินเชื่อรายย่อย 

แม้ผ่าน 10 เดือนแรกของปีนี้ การขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยจะเติบโตเพียง 1.86% จากสิ้นปีก่อน แต่ด้วยโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3 ที่ดีกว่าที่คาด ด้วยแรงส่งของการส่งออกที่เติบโตสูงด้วยเลขสองหลัก ประกอบกับการเร่งรัดการลงทุนภาครัฐในช่วงต้นปีงบประมาณ 2561 ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่ 4% โดยคาดหมายว่า สินเชื่อภาคธุรกิจน่าจะกลับมาเบิกใช้วงเงินสูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีส่วนสัมพันธ์กับการส่งออก ขณะที่สินเชื่อรายย่อยจะมีแรงขับเคลื่อนทั้งจากสินเชื่อเช่าซื้อที่ทยอยกลับมาเป็นบวก ตามปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่สูงกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งสินเชื่อรายย่อยประเภทไม่มีหลักประกัน ที่แม้จะถูกกระทบจากเกณฑ์กำกับธุรกิจของ ธปท. ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แต่ความต้องการใช้วงเงินสินเชื่อในช่วงท้ายปีที่อยู่ในระดับสูง จะช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าวลงได้บ้าง

ส่วนด้านเงินฝาก ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่สร้างแรงกดดันต่อสภาพคล่องของธนาคาร แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้าย จะมีผลิตภัณฑ์การออมอื่นที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเข้ามาเป็นคู่แข่งก็ตาม โดยคาดว่า ธนาคารพาณิชย์จะบริหารการเติบโตของเงินฝาก ให้อยู่ในระดับเพียงพอกับความต้องการสินเชื่อ ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประคองภาพรวมผลการดำเนินงานที่ดี วิทยุพลังงาน