‘AJA’เปิดแผน5ปี ผู้นำไฟฟ้าครบวงจร

24 พ.ย. 2560 | 11:18 น.
AJA เปิดแผนโต 5 ปีตั้งเป้าผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนครบวงจร ส่งบริษัทลูก “ไรเซน เอนเนอร์จี” เข้าตลาดหุ้น “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” ซีอีโอ ดันยอดขาย-นำเข้ารถไฟฟ้าปีแรก 800 ล้านบาท

นายอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยีฯ (AJA) เปิดเผยแผนธุรกิจ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จีฯ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 45% ว่า มีเป้าหมายทำธุรกิจพลังงานสะอาด ลดภาวะมลพิษและโลกร้อน โดยมีธุรกิจ 5 สาย คือ 1. การนำเข้า-จัดจำหน่าย รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ BYD จากจีน (EV), 2. สถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, 3. โรงงานผลิตแบตเตอรี่เก็บพลังงานไฟฟ้า, 4. รีไซเคิลแบตเตอร์รี่ และผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบรถบัส รถไฟฟ้ารางเดี่ยว แบรนด์ BYD

[caption id="attachment_234352" align="aligncenter" width="335"] อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยีฯ (AJA) อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยีฯ (AJA)[/caption]

สำหรับธุรกิจใหม่นี้ มีแผนร่วมธุรกิจกับบริษัท BYD เช่น โรงงานประกอบรถบัส และโรงงานแบตเตอรี่ เนื่องจาก BYD เป็นผู้เชี่ยวชาญแบตเตอรี่ มากว่า 20 ปี เป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ถือหุ้นโดยวอร์เรน บัฟเฟต 10% มีสินทรัพย์ 232 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 4 แสนล้านบาท ยอดขายรถ EV 7.5 แสนคัน ส่วนแบ่งตลาด 13.2% มีรถแท็กซี่ที่ผลิตจาก BYD วิ่งมา 6 ปี จำนวน 827,000 กิโลเมตร ปัจจุบัน บริษัท ไรเซนฯ ได้ทดลองนำเข้ารถไฟฟ้าตัวอย่างแล้ว 10 คัน

สำหรับ บริษัทไรเซนเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง AJA กับกลุ่มชาริช โฮลดิ้ง 45%, และนักลงทุนรายบุคคลอีก 10% เช่น นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์, นายนัยสันต์ จันทรศรี และนายรณชัย จินวัฒนา ภรณ์ คาดยอดขายจะเริ่มเข้าปีแรก 2561 จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อนาคตส่วนใหญ่ มาจากพลังงานทดแทน

“ภาพ AJA ในปี 2561 พยายามหารายได้และกำไร เชื่อว่าบริษัทจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ในไม่ช้านี้ โดยเฉพาะตามแผน 5 ปี รายได้โตก้าวกระโดดตาม 5 สายธุรกิจ และดันบริษัท ไรเซนฯ เข้าตลาดหุ้น” นายอมร กล่าว

บาร์ไลน์ฐาน สำหรับแผนการตั้งบริษัท ไรเซนฯ อยู่ระหว่างการขอบีโอไอ ปี 2561 ส่งเสริมการขาย-ขายรถ EV เป้าหมายภาครัฐ ที่มีโอกาสเปลี่ยนเป็นรถบัส EV และถือเป็นโอกาสของไซเรนปี 2562 ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เฟสแรกเริ่มจาก 20 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท ต้องการยอดขาย 2,000 ล้านบาท ในปี 2563 หรือ 20 % ของมูลค่าตลาด 1 หมื่นล้านบาท ปี 2563 เตรียมนำบริษัท ไรเซนฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรเซนฯ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัท ไรเซนฯ เป็นบริษัทนิวเอ็นเนอร์ยี หรือบริษัททางเลือกการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ช่วยลดภาวะมลพิษ ซึ่งปีแรกเน้นการขายรถ EV สำหรับสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่, รถมินิบัส, สถานีชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ 30% ต่างจังหวัด 70% หรือภายใน 5 ปีมีสถานีชาร์จ 1,000 สถานีทั่วประเทศและรถ EV สำหรับโลจิส ติกส์ เช่น รถหัวลาก, รถยก ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 800 ล้านบาท

“ตามแผนโรงงานแบตเตอรี่ จะแล้วเสร็จปี 2562 ซึ่งปี 2561 เริ่มนำเข้าจาก BYD ก่อน ส่วนการนำเข้ารถ EV ปีแรกเน้นการทำตลาด ให้ความรู้ ข้อดีของการใช้รถ EV ก่อน โดยใช้โชว์รูมปากซอยวิภาวดีฯ 22 เป็นศูนย์การวิเคราะห์ มากกว่าอู่ซ่อมบำรุง โดยปกติรถ EV ไม่ซับซ้อน เป็นรถที่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น” นายอภิชาติ กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,316 วันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว