ฉาววงการลูกหนังไทย ‘ผบ.ตร.’ เชือดยกแก๊ง “นักเตะ-ผู้ตัดสิน-สโมสร” เอี่ยวขบวนการล้มบอล

21 พ.ย. 2560 | 08:39 น.
- 21 พ.ย. 60 - จากกรณีสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ได้ประสาน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เร่งตรวจสอบการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการในประเทศไทย ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เกี่ยวข้องที่อาจมีส่วนพัวพันการล้มบอลด้วยวิธีการล็อคสกอร์เอาไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมีความน่าสงสัยเกี่ยวกับผลการแข่งขันที่เสียประตูมากเกินความจริง ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งตั้งคณะทำงานประสานข้อมูลกับทางสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง

ล่าสุด พนักงานสืบสวนสอบสวนได้รายงานผลการทำงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 12 ราย ประกอบด้วย

21-11-2560 15-49-45

นักฟุตบอลอาชีพ 5 ราย

1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี
2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ นักฟุตบอล (ประตู) ทีมราชนาวี เอฟซี
3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี หมายจับเลขที่ 2524/2560
4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี
5.นายวีระ เกิดพุดซา นักฟุตบอล (ประตู) ทีมนครราชสีมา มาสด้าเอฟซี

 

โดยกลุ่มนักฟุตบอล มีความผิดตามพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ มาตรา 65 เป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้มีการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01

กรรมการผู้ตัดสิน (FIFA) 1 ราย คือ นายภูมิรินทร์ คำรื่น มีความผิดตามพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ มาตรา 67 เป็นผู้ตัดสิน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่เที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุก1-10 ปี หรือปรับ 3-6 แสนบาท

กรรมการผู้ตัดสิน (ไลน์แมน) 1 ราย คือ นายธีรจิตร สิทธิศุข มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

ผู้บริหารสโมสร 1 ราย คือนายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

วิทยุพลังงาน

กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย คือ

1.นายวัลลภ สมาน
2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา
3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ
4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล

มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

ทั้งนี้ชุดสืบสวนนครบาลและสืบสวนกองปราบปราม ได้ส่งกำลังเข้าไปในพื้นที่ที่พักทั้ง 12 ผู้ต้องหาเพื่อนำตัวมาสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

Soccer-Ball

แถลงการณ์ “ขบวนการล้มบอลไทย” ณ วันที่ 21 พ.ย. 2560 เวลา 14.00 น.

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้หารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องการปราบปรามขบวนการล้มบอล โดยหลังจากนั้นได้มีการสืบหาข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งทางเราได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี ท่านสมยศได้ให้ข้อมูลและความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ตัวผมเองได้เข้ามาทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็มีคำถามจากสื่อมวลชน แฟนบอล และประชาชนคนไทย ว่า การแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทย หรือ ไทยลีก มีการกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า หรือที่เรียกว่า ล็อกผลการแข่งขัน จริงหรือไม่ ซึ่งตัวผมเองก็อยากรู้และพิสูจน์ว่ามันมีจริงหรือเปล่า จึงได้เข้าหารือกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ขอความร่วมมือจากท่านในฐานะเป็นตำรวจ ท่านก็ให้ความร่วมมือด้วยดี โดยได้สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชา ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกันเกือบปี เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากทำอะไรโดยที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ และไม่สามารถเอาผิดผู้ที่ไม่อยู่ในขบวนการนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง 21-11-2560 15-48-02

เราทำงานด้วยกัน และด้วยความร่วมมือของ ‘สปอร์ตเรดาร์’ ของ AFC เรามีการประชุมหารือกันมาโดยตลอด แต่ไม่ได้มีการให้ข่าวหรือเปิดเผยข่าว เพราะต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก่อน ถึงจะแถลงข่าว นี่คือ สิ่งที่เราทำงานร่วมกันมา ผมอยากจะบอกสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน ว่า เรื่องการล็อกผลฟุตบอล ล้มบอล ไม่ใช่เพิ่งมี มันมีมานานแล้ว มีมาเป็น 10 ปี แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือไม่มีการทำเรื่องนี้ให้ประจักษ์

 

ในอดีต ผู้บริหารสมาคมฯ หรือผู้ที่มีอิทธิพล มีบารมีในวงการกีฬา ก็เริ่มจากวิธีการขอร้อง บังคับ ขู่เข็ญ เสนอข้อแลกเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็น ประโยชน์ในด้านต่างๆ หรือทรัพย์สินเงินทอง เพื่อที่จะกำหนดผลการแข่งขัน ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ในอดีตยังไม่ค่อยรุนแรง แต่ต่อมาเมื่อฟุตบอลมีการพัฒนาเป็นฟุตบอลอาชีพ ผลประโยชน์ที่ตอบแทนกับทีมฟุตบอลมันมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เงินสนับสนุนจากสมาคมการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ หรือแม้แต่เงินรางวัล สปอนเซอร์สินค้า มันก็เลยเป็นเรื่องที่รุนแรงในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น บุคคลที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นก็หาช่องทางเอาเปรียบ โดยการกำหนดผลการแข่งขันล่วงหน้า เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ต่อมายิ่งมีการพนันเข้ามา และการเข้าถึงการพนันฟุตบอลปัจจุบันนี้เข้าถึงง่าย บางคนมียูสเซอร์สามารถเล่นได้เอง โดยไม่ต้องโทรไปแทงกับใคร เมื่อมีการพนันเข้ามา บุคคลเหล่านี้ก็เลย เอาประโยชน์จากการล็อกผลการแข่งขันล่วงหน้ามาเล่นกับการพนัน a3193da9f744508278b55342b9cabd86_XL

มีคำถามถึงผมว่า “ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว มีการเปิดเผยจับกุมเช่นนี้แล้ว วงการฟุตบอลจะดูตกต่ำไหม หรือความเชื่อถือวงการฟุตบอลจะเสียไปไหม นำความเสื่อมมาสู่วงการฟุตบอลไหม” ขอเรียนว่า ถ้าการล้มบอล การล็อกผลการแข่งขันล่วงหน้า เปรียบเสมือนโรคร้ายที่อยู่ในร่างกายเรา ถ้าเรารู้ว่ามันมี เราต้องรักษา ถ้ามันเป็นโรคร้าย เช่นโรคมะเร็งร้าย ก็ต้องผ่าตัด การผ่าตัดมันก็ต้องเจ็บ การรักษาเรามีโอกาสหาย แต่ถ้าเราไม่รักษา ปล่อยให้โรคนี้อยู่กับตัวเราต่อไปเรื่อยๆ รอวันตาย ได้คุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประเมินผลได้-ผลเสียแล้วว่า ผลเสียมันมีมากกว่า เราจะไม่รอวันตาย เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านเรา ที่มีการล็อกผลการแข่งขันด้วยการพนัน วงการฟุตบอลก็ล่มสลาย

 

กระบวนการของบุคคลเหล่านี้ ได้กระทำแบบครบวงจร มีทั้งนายทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้ตัดสิน นักกีฬา และบุคคลที่อยู่ในข่าย มาสอบปากคำ มาซักถาม ทุกคนยืนยันว่า มันมีอยู่จริงและมีมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้ทุกคนกล้าพูด กล้าเปิดเผย เพราะทุกคนรู้ว่า การทำงานของตำรวจมันปกปิดไม่ได้ แล้วหลังจากนี้ 12 คน ที่ทางตำรวจออกหมายจับหรือดำเนินคดี ไม่ใช่ว่าจะหมดแค่นี้ ถ้ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยง เกี่ยวข้อง พาดพิงถึงใคร ก็จะสานต่อ อย่างที่เคยเปรียบ เหมือนมวยเพิ่งเริ่มยก 1 มันจะต้องมียก 2 ยก 3

e-book

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวเสริมว่า การจับกุมการล็อกผลกีฬาฟุตบอล มีด้วยกัน 3 ส่วน คือ 1.กรรมการตัดสิน ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 2.นักฟุตบอล 3.นายทุน ตามมาตรา 64, 65, 66 และ 67 พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควร ทั้งเส้นทางการเงิน จากการสืบสวนสอบสวนต่าง ๆ จนแน่ชัดแล้วว่า มีการกระทำความผิดจริง จึงได้ขอศาลฯ อนุมัติหมายจับดังกล่าว

‘มาเฟียฟุตบอล’ ก็มีแต่ทีมใหญ่ ๆ ทั้งนั้น และมีทีมกลางๆ คอยร่วมมือ ซึ่งเอ่ยชื่อไป ท่านรู้อยู่แล้ว ขอสงวนไม่เอ่ย เพราะจะเป็นการพาดพิง กระบวนการสืบสวน ข้อมูลต่างๆ อยู่ที่ทีมงานของตำรวจหมดแล้ว โดยเฉพาะทีมงานของนครบาลและทีมงานสอบสวนกลาง ผมถือว่า คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ ต้องรอดูผลว่า ศาลจะตัดสินอย่างไร อยากให้วงการฟุตบอลมีความรุ่งโรจน์เหมือนประเทศอื่นๆ โดยผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ถูกควบคุมตัวไว้หมดแล้ว มีกรรมการ 2 ท่าน นักกีฬา 5 ท่าน ผู้ร่วมทุน 6 ท่าน ต่อไปก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม

อ๊ายยยขายของ-7-1