ตลาดจักรยาน มือ 2 แม่สอดป่วน ศุลกากรไล่บี้ภาษีคันละ 400 บาท

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตาก  รายงานว่า บรรดาร้านค้ารถจักรยานมือ 2 จากประเทศญี่ปุ่น ที่นำรถจักรยานปั่น 2 ล้อ เข้ามา วางจำหน่ายบริเวณท่าขนส่งสินค้า ตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา เช่น ท่าเรือ บ้านท่าอาจ ท่า 9 และ ท่า 10 และท่าขนส่งสินค้าอีกหลายแห่ง ซึ่งมีจักรยานนับหมื่นๆคัน ติดค้างอยู่เริ่มระส่ำแล้ว เมื่อเจ้าของร้านซึ่งส่วนมากเป็นชาวเมียนมา ต่างพยายามรีบขายรถจักรยาน ก่อนที่จะปิดกิจการลง หลังจากที่ทางศุลกากรแม่สอด จะเริ่มเก็บภาษีรถจักรยานมือ 2  คันละ 400 บาท เพราะต่างเห็นว่า การเก็บภาษี รถจักรยานเก่าๆมือ 2 แพงเกินไป ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ มีผลต่อราคาการจำหน่ายรถจักรยานที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าซื้อยาก จากเดิมซื้อขายง่าย มีคนซื้อมาก และไม่มีการเก็บภาษีใดๆ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ร้านค้าหลายร้านต้องปิดกิจการลง เจ้าของธุรกิจรถจักรยานมื 2 บางรายต้องทยอยนำรถจักรยานออกไปเก็บไว้ที่ประเทศเมียนมา มา ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอิทธพล กองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง บีจีเอฟ. เพราะเอาไว้ในเขตไทย ต้องเสียภาษีคันละ 400 บาท



พ่อค้าจักรยานรายหนึ่งบอกว่า รถจักรยานปั่น 2 ล้อ ได้นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งไปยังฝั่งประเทศเมียนมา จากเดิมได้นำรถจักยานวางจำหน่ายในเขตไทย และรอส่งออกไปยังฝั่งประเทศเมียนมา แต่ตามกฏหมายศุลกากร หรือ พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 นั้น ทำไม่ได้แล้ว รถบรรทุกที่นำรถจักรยานมา จะไปจอดส่งสินค้าไปยังฝั่งเมียนมาต่อไปไม่ได้อีก เพราะพื้นที่คลังสินชั่วคราวตามแนวชายแดนถูกยกเลิกไปแล้ว ทำให้ตนเองต้องปิดกิจการไป เพราะต้องจ่ายค่าภาษีผ่านเจ้าของท่าเรือ ในราคาคันละ 400 บาท และเห็นว่ามีราคาแพงมาก ทำให้ค้าขายลำบาก