‘เรือนไหมใบหม่อน’ติดปีก ผุดศูนย์สินค้าครบวงจร ปูทางโต70ล้าน

25 พ.ย. 2560 | 09:19 น.
“เรือนไหม-ใบหม่อน” เผยอยู่ในขั้นตอนสร้างศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แจงภายในศูนย์จะมีตั้งแต่ต้นนํ้ายันปลายนํ้าพร้อมเตรียมทำตลาดออนไลน์ และนำผ้ายีนส์ใยไหมบุกตลาดต่างประเทศ เชื่อโกยรายได้ปีหน้า 70 ล้าน

[caption id="attachment_233559" align="aligncenter" width="503"] อาทร แสงโสมวงศ์ อาทร แสงโสมวงศ์[/caption]

นายอาทร แสงโสมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดเรือนไหม-ใบหม่อน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการเรื่องการเปิดศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร โดยจะเป็นศูนย์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นไหมไทยตั้งแต่กระบวนการผลิตต้นนํ้าไปจนถึงปลายนํ้าหรือผลิตภัณฑ์แบบสำเร็จรูปบนพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองเลี้ยงไหม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นก็จะทำเรื่องถวายรายงานเข้าสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราช

TP13-3316-3A ทั้งนี้ ภายในศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะประกอบไปด้วยศูนย์แห่งการเรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมการสาวไหม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระบวนการผลิตไหม ไม่ว่าจะเป็นชาหม่อน,ซุปใบหม่อน, หม่อนเบอร์รี่, สบู่โปรตีนไหม, ดักแด้อบกรอบ, ครีมโปรตีนไหมบำรุงผิวหน้า และผ้าห่มใบไหม เป็นต้น อีกทั้งล่าสุดกำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารโปรตีนในลักษณะเดียวกับเวย์โปรตีน(WHEY) ที่กลุ่มผู้ออกกำลังกายนิยมรับประทานเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย

บาร์ไลน์ฐาน หลังจากที่ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรเปิดให้บริการอย่างเป็นรูปธรรมแล้วกลยุทธ์ในการทำตลาดในระยะต่อไปคือการรุกเข้าสู่ตลาดออนไลน์ทั้งในส่วนของเฟซบุ๊ก (Facebook) และไลน์ (Line) เพื่อขยายตลาดให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รู้ถึงที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอย่างไรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ “เรือนไหม”

นายอาทรกล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้กำลังเตรียมผลิตผ้ายีนส์ที่ทำจากใยไหมสายพันธุ์ไทยจากเดิมที่ปกติผ้ายีนส์จะทำมาจากผ้าคอตตอน (cotton) โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการทดลองและวิจัยจนประสบความสำเร็จซึ่งล่าสุดได้มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ส่วนช่องทางในการทำตลาดนั้น ได้มีการเจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยีนส์ของญี่ปุ่น เช่น ยี่ห้อโมโมทาโร่เป็นต้น นอกจากนี้ยังมองถึงช่องทางในการทำธุรกิจร่วมกับสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเป็นผู้ผลิตหมวกแก็ปจากผ้ายีนส์ ใยไหม โดยปัจจุบันได้มีการร่างแบบไว้แล้ว เหลือเพียงแต่ขั้นตอนของการเจรจาธุรกิจ

TP13-3316-2A “จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวนี้ เชื่อว่าจะทำให้ในปี 2561 หจก.เรือนไหม-ใบหม่อนจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 70 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตลาดตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้”

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์จากหจก.เรือนไหม-ใบหม่อนนั้น อยู่ที่กระบวนการผลิตที่มาจากไหมแท้ 100% โดยนำนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้องค์ความรู้ในแบบพื้นฐานเดิมจนได้ผ้ายีนส์ใยไหมขณะที่ขั้นตอนการย้อมไหมก็ยังคงใช้ครามเหมือนการทำในอดีตจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในไทยและในตลาดสากล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,316 วันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว