SPRCอนาคตยังแจ๋ว
โบรกเกอร์ เชียร์หุ้น SPRC เชื่อ ปตท. ทิ้งหุ้น 5% ไม่กระทบธุรกิจ เชื่อราคาหุ้นยังไม่เต็มมูลค่า
ราคาหุ้นบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งฯ (SPRC) ปรับตัวลง จากแรงขายนักลงทุนที่ตื่นตกใจข่าวบริษัท ปตท.ฯ (PTT) ขายหุ้น SPRC ที่ถืออยู่ทั้งหมด 234.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.41% ของทุนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่าการขาย 3,706.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าไม่มีปตท.ถือหุ้นแล้ว จะกระทบการทำธุรกิจของ SPRC แต่หลังจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แนะนำซื้อ เพราะเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแล้ว ปลายสัปดาห์ (17 พ.ย.) มีแรงซื้อกลับเข้ามา ผลักดันราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ราคาที่ปรับตัวลงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ
ทั้งนี้บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ฯ ให้คำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท เพราะเชื่อว่า PTTขายหุ้น ไม่กระทบการดำเนินธุรกิจของทั้งปตท. และ SPRC ซึ่งเป็นเพียงการบริหารเงินลงทุนของปตท. เท่านั้น เพื่อเตรียมความพร้อมการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะ LNG ซึ่ง PTT ได้มีการปรับเงินลงทุนจากเดิมต้นปีที่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับปี 2560-2564 เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับกำไรที่ PTT จะรับรู้จากการขายหุ้น SPRC นั้นคาดว่าจะอยู่ที่ 1,830 ล้านบาท และจะได้รับกระแสเงินสด 3,706 ล้านบาท
สำหรับผลกระทบต่อธุรกิจ SPRC ก็ไม่มีเช่นกัน เนื่องจากสัดส่วนการขาย 56% ให้กับ เชฟรอน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SPRC และ PTT ที่ 32% ถึงแม้ PTT จะมีสัดส่วนการรับซื้อที่ลดลง แต่ปริมาณที่ขายให้กับ เชฟรอน เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่า ประเมินว่า เชฟรอน สามารถรับสัดส่วนการซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 60-65% ด้วยช่องทางขายนํ้ามันค้าปลีกของปั๊ม Caltex
อย่างไรก็ตาม การที่ ปตท.ขายหุ้น SPRC ออกมา ไม่ได้ชี้ว่าราคาหุ้น SPRC เต็มมูลค่า หากย้อนไปปี 2558 ที่ปตท.เคยขายหุ้นบางจาก (BCP) ออกมา ราคา 36 บาท หลังจากนั้นหุ้น BCP ขึ้นไปสูงสุด 44.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 23% จากราคาขาย
ด้านบล.บัวหลวงฯ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน 20.30 บาท ที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงบ้างแล้ว สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 4/60 ที่คาดออกมาอ่อนตัว เป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นเพื่อเก็งผลประกอบการขาขึ้นในปี 2561 ปัจจุบัน SPRC ซื้อขายที่ PER ปี 2561 ที่ 9.5 เท่า ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของกลุ่มโรงกลั่น 11.5 เท่า อยู่มาก และคาดอุตสาหกรรมโรงกลั่น ยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่องจนถึง ปี 2561 และส่งผลให้ตลาดต้องปรับเพิ่มมูลค่าหุ้นในอนาคต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ราคาหุ้นบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งฯ (SPRC) ปรับตัวลง จากแรงขายนักลงทุนที่ตื่นตกใจข่าวบริษัท ปตท.ฯ (PTT) ขายหุ้น SPRC ที่ถืออยู่ทั้งหมด 234.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.41% ของทุนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่าการขาย 3,706.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าไม่มีปตท.ถือหุ้นแล้ว จะกระทบการทำธุรกิจของ SPRC แต่หลังจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แนะนำซื้อ เพราะเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแล้ว ปลายสัปดาห์ (17 พ.ย.) มีแรงซื้อกลับเข้ามา ผลักดันราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ราคาที่ปรับตัวลงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ
สำหรับผลกระทบต่อธุรกิจ SPRC ก็ไม่มีเช่นกัน เนื่องจากสัดส่วนการขาย 56% ให้กับ เชฟรอน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SPRC และ PTT ที่ 32% ถึงแม้ PTT จะมีสัดส่วนการรับซื้อที่ลดลง แต่ปริมาณที่ขายให้กับ เชฟรอน เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่า ประเมินว่า เชฟรอน สามารถรับสัดส่วนการซื้อเพิ่มขึ้นเป็น 60-65% ด้วยช่องทางขายนํ้ามันค้าปลีกของปั๊ม Caltex
ด้านบล.บัวหลวงฯ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน 20.30 บาท ที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงบ้างแล้ว สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 4/60 ที่คาดออกมาอ่อนตัว เป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นเพื่อเก็งผลประกอบการขาขึ้นในปี 2561 ปัจจุบัน SPRC ซื้อขายที่ PER ปี 2561 ที่ 9.5 เท่า ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของกลุ่มโรงกลั่น 11.5 เท่า อยู่มาก และคาดอุตสาหกรรมโรงกลั่น ยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่องจนถึง ปี 2561 และส่งผลให้ตลาดต้องปรับเพิ่มมูลค่าหุ้นในอนาคต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
