จัดเอ็กซ์โปออนไลน์ รับไลฟ์สไตล์นิวเจน

“ฮิตอีเวนท์” สบช่องคนรุ่นใหม่นิยมช็อปปิ้งออนไลน์ ปรับกลยุทธ์สู่เอ็กซ์โปแบบใหม่ “Gift Expo 2017 Happy Gift Fest” มั่นใจเงินสะพัด 50 ล้านบาท ก่อนต่อยอด 3 งานรวดในปีหน้า

นางกัลยา คุณานันทกุล ประธานบริหาร บริษัท ฮิตอีเวนท์ จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เพื่อรองรับเทรนด์การช็อปปิ้งสินค้าออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ประกอบกับเป็น ช่วงไฮซีซันของผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อของขวัญของฝาก บริษัทจึงร่วมมือกับสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดตัวงาน “Gift Expo 2017 Happy Gift Fest” งานแสดงสินค้าและช็อปปิ้งของขวัญผ่านช่องทางออนไลน์ขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นการรวบรวมเอาผู้ประกอบการของขวัญของฝากกว่า 200 ราย จำนวน 1,000 ร้านค้าจากทั่วประเทศมาไว้ภายในงาน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 25-35 ปี คิดเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาได้แก่กลุ่มอายุ 35-45 ปี คิดเป็นสัดส่วน 30-40% และอีก 10% เป็นลูกค้าทั่วไปที่อยากลองช็อปปิ้งออนไลน์

ทั้งนี้รูปแบบดังกล่าวถือเป็นการตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ที่ชื่นชอบการช็อปสินค้าออนไลน์และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาการเดินทาง โดยบริษัทจะมีการวางแผนงานที่ครอบคลุม และการทดลองก่อนการเปิดงานแสดงสินค้าจริงนั้นเพื่อให้ระบบมีศักยภาพสูงสุดรองรับจำนวนคนที่เข้ามาซื้อสินค้าได้อย่างไม่มีปัญหา ควบคู่กับการจัดโปรโมชัน กิจกรรมทางการตลาด และการสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ขณะที่กิจกรรมบนช่องทางจัดแสดงอย่าง hitevent.com นั้นจะมีรูปแบบเหมือนการจัดกิจกรรม On Ground ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นโชค, โปรโมชัน ฯลฯ

“งานของขวัญปลายปีครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่บริษัทได้มีการจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ ซึ่งครั้งแรกถูกจัดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นรูปแบบของงานท่องเที่ยวและมีผู้สนใจลงทะเบียนซื้อสินค้ามากกว่า 1 แสนรายซึ่งถือว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีนั่นเองจึงเป็นที่มาของการจัดงานของขวัญออนไลน์ในครั้งนี้”

สำหรับธุรกิจงานเอ็กซ์โปบนเว็บแม้จะไม่มีต้นทุนในเรื่องของค่าเช่าสถานที่ แต่ทว่าเม็ดเงินส่วนต่างในการจัดงานถูกโยกไปใช้ในระบบโครงสร้างออนไลน์คือหากมีจำนวนผู้ซื้อเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก กิจกรรมทางการตลาดและการสื่อสารไปยังผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ขณะเดียวกันร้านค้าที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าจะเป็นฝ่ายที่ประหยัดต้นทุนในการเช่าพื้นที่จากเดิมที่อาจจะสูงถึงหลักหมื่นหลักแสนเหลือเพียงค่าใช้จ่ายหลักพันบาทในการลงทะเบียนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นข้อดีแก่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีโอกาสและช่องทางการขายอีกด้วย

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดทั้งสิ้น 40-50 ล้านบาทตลอดระยะเวลาการจัดงาน หรือมีผู้สนใจเข้าลงทะเบียนซื้อสินค้ามากกว่า 1 แสนราย แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป 80% และลูกค้าองค์กร 20% พร้อมกันนี้ยังมีแผนการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่องตามเทศกาลสำคัญที่ทุกคนชื่นชอบ โดยปีหน้าวางแผนการจัดงานไว้ทั้งสิ้นราว 2-3 ครั้ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560