ERWทุ่ม8พันล้านผุดรร.ใหม่

22 พ.ย. 2560 | 11:20 น.
ดิเอราวัณ กรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องตามโรดแมป โดยจะมีเอ็มดีใหม่ เป็นลูกหม้อในองค์กรกว่า 13 ปี รับช่วงต่อต้นปีหน้า ชี้ในช่วงของแผนอีก 3 ปีนี้ ยังลงทุนต่อเนื่องอีกราว 8 พันล้านบาท โฟกัสโรงแรมระดับกลาง-ล่าง รับเป้าปี 63 ดันฮ็อปอินน์ในไทยทะลุ 50 แห่ง รวมถึง 12 แห่งในฟิลิปปินส์

ทิศทางการดำเนินธุรกิจของดิเอราวัณกรุ๊ป ตามโรดแมป 5 ปี (ปี 2559-2563) ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ แม้จะมีการเปลี่ยน แปลงกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่โดยแต่งตั้ง “เพชร ไกรนุกูล” เป็นลูกหม้อมากว่า 13 ปี เข้ามารับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคม 2561 แทน “กมลวรรณ วิปุลากร” ที่จะเกษียณอายุตามข้อบังคับ ของบริษัทในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และจะขยับไปนั่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการลงทุนแทน แต่การทำงานตามแผนโรดแมปในส่วนที่เหลืออีก 3 ปีข้างหน้า ก็ยังคงเดินไปตามแผนที่วางไว้

นายเพชร ไกรนุกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ดิเอราวัณ กรุ๊ป เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การขับเคลื่อนแผนโรดแมป ภายใต้การบริหารของผมในปีหน้า ทุกอย่างก็ยังคงเดินไปตามแผนที่วางไว้ เพราะแผนดังกล่าวผมเองก็ร่วมทำแผนนี้มาตั้งแต่ต้น ซึ่งชัดเจนว่าการลงทุนของดิเอราวัณ กรุ๊ป จะมุ่งไปที่โรงแรมระดับมิดสเกลลงมาเป็นหลัก เนื่อง จากมีผลตอบแทนในการลงทุนที่ดี จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยว จีน อินเดีย รัสเซีย ที่เป็นตลาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของไทย

โดยจะเน้นเพิ่มจำนวนโรงแรมราคาประหยัดภายใต้แบรนด์ฮ็อปอินน์ ทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งในไทยขณะนี้เราก็เริ่มมองที่จะลงทุนฮ็อปอินน์ในกรุงเทพฯแถวแจ้งวัฒนะ หลังจากที่ผ่านมาเน้นการลงทุนที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยฮ็อปอินน์ที่จะเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ราคาจะอยู่ที่ 800-900 บาทต่อคืนสูงกว่าฮ็อปอินน์ในต่างจังหวัดที่จะขายราคา 600 บาทต่อคืน และใกล้เคียงกับโรงแรมฮ็อปอินน์ที่ฟิลิปปินส์ ที่ขายราคา 900-1,000 บาทต่อคืน เพราะจัดว่าเป็นโลเกชันในเมืองย่านธุรกิจ

MP22-3315-1C รวมไปถึงการพัฒนาโรงแรม ในระดับมิดสเกลและอีโคโนมี ที่จะเป็น 2 โรงแรมบนอาคารเดียวกัน โดยเตรียมจะเปิดโรงแรมโนโวเทล&ไอบิส สไตล์ ซอยนานา ปลายปี 2561 และโรงแรมเมอร์เคียว&ไอบิส สุขุมวิท 24 ในปี 2562 ซึ่งโมเดลการมี 2 โรงแรมในอาคารเดียวกัน เรามองเห็นถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะจะได้ลูกค้าจาก 2 ตลาด คือ ระดับกลางและระดับกลางลงมา ทำให้ได้ราคาขายห้องพักที่สูงไม่ได้พึ่งเพียงตลาดเดียว หรือพึ่ง แต่กรุ๊ปทัวร์ที่อาจได้ราคาไม่สูง

[caption id="attachment_130289" align="aligncenter" width="503"] กมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)[/caption]

ด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ดิเอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า การลงทุนตามแผนโรดแมป 5 ปี ภายใต้การลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท ยังเหลืออีกราว 8 พันล้านบาทที่จะทยอยลงทุนในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 3 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการลงทุนต่อเนื่องในโครงการโรงแรมโนโวเทล&ไอบิส สไตล์ นานา การเปิดโรงแรมฮ็อปอินน์ในไทยเพิ่มอีก 6-8 แห่ง และในฟิลิปปินส์อีก 3 แห่ง คือที่Aseana, Alabang, Quezon City ซึ่งตามแผนจนถึงปี 2563 ดิเอราวัณ กรุ๊ป จะมีโรงแรมรวมกันมากกว่า 85 แห่ง ราว 1 หมื่นห้อง โดยจะขยายฮ็อปอินน์ในเมืองไทยให้เป็น 50 แห่ง ซึ่งในไทยเราก็มองที่จะสร้างฮ็อปอินน์แห่งที่ 2 หรือแห่งที่ 3 แล้วในจังหวัดเดียว เพราะการตอบรับดีมาก อัตราการเข้าพักเกิน 80% เราก็มองที่จะขยายสาขาเพิ่ม รวมถึงตั้งเป้ามีโรงแรมในฟิลิปปินส์ราว 12 แห่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว