ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งไทยบุกจีน

17 พ.ย. 2560 | 06:38 น.
นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  AVG Thailand  จำกัด กล่าวถึงทิศทางและความคืบหน้าหลังการเปิดตลาด  AVG Thailand นำธุรกิจไทยบุกตลาดจีนว่า สำหรับ AVG Thailand นั้นเป็นการร่วมทุนระหว่าง วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ และบริษัท AVG จำกัด โดย AVG บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในจีนระดับแนวหน้าของเอเชีย เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2007 โดยมีออฟฟิศอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ต่อมาปี 2012 เปิดสาขาที่สิงคโปร์ เพื่อให้บริการลูกค้าต่างชาติ และล่าสุดเมื่อกลางปี 2017 ได้เปิด บริษัท  AVG Thailand ขึ้นมาเพื่อรองรับตลาดไทยที่มีความต้องการทำการตลาดไปยังประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยแม้จะเพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน แต่มีลูกค้าองค์กรใหญ่หลากหลายที่วางใจให้ทางเอวีจี เป็นผู้ดูแล

ในฐานะเคยเป็นผู้บริหารคนไทยคนแรกของไป่ตู้ประเทศไทย จึงได้นำความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการบริหารเอวีจีประเทศไทย โดยชูจุดเด่นของ เอวีจี ไทยแลนด์ ว่ามีความแตกต่างจากบริษัทมาร์เก็ตติ้ง หรือเอเยนซี่ ที่ทำการตลาดในจีนอื่นๆ คือ การให้บริการแบบ Total Solution กับลูกค้าได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะส่วนของการวางแผน ซื้อสื่อ (Media Buy) เพราะบริษัทฯ พร้อมจะดูแลให้ตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มจาก Strategic Planning ให้กับลูกค้าเพราะมีทีมงานที่รู้จริงเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคและ วัฒนธรรมของชาวจีน

ขณะเดียวกันสามารถเข้าใจแบรนด์ไทย และเห็นถึงความแตกต่างในการนำเสนอให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าที่ประเทศจีนได้ โดยจะทำงานไปกับลูกค้าพร้อมๆ กัน และยังมีทีมด้าน Creative และ Execution ต่างๆ กว่า 50 ชีวิตที่ประเทศจีน จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างผลงานได้อย่างเข้าอกเข้าใจผู้บริโภคชาวจีนได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเอวีจี ยังเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ได้ Authorized Partner กับสื่อดิจิตอลยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 ในจีน Baidu, Alibaba, Tencent ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการทำการตลาดในประเทศจีน” ชฎากร กล่าว

นอกจากนั้น ผู้บริหาร เอวีจี ไทยแลนด์ ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มการทำตลาด ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งไปบุกจีน ในปี 2018 ว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจไทยที่จะหันมาลงเม็ดเงินในการบุกตลาดจีนจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มทาร์เก็ตนักท่องเที่ ยวชาวจีน เพราะในปี 2018 จะมีการเปิดตัวเที่ยวบินที่บินตรงจากประเทศจีนมายังประเทศไทยมากขึ้น บวกกับนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) ที่จะเปิดเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะทำให้คนจีนสามารถขับรถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันได้ มากยิ่งขึ้นซึ่งกลุ่มนี้มีทั้งธุรกิจบริการ โรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์สินค้าต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง, ขนม เป็นต้น จึงมีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยสูงมากขึ้น

กลุ่มที่ 2 ด้านการส่งออก ปัจจุบันประเทศจีนเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกอันดับหนึ่งของการส่งออกสินค้าไทย และดูจากแนวโน้มก็จะเห็นว่าคนจีนยังมีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการพูดกันปากต่อปากถึงคุณภาพของสินค้าไทย และกระแสความนิยมของละครไทย กลุ่มที่ 3 ทาร์เก็ตกลุ่มนักลงทุนชาวจีน เป็นกลุ่มคนจีนที่มาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจในประเทศไทย ส่วนนี้สังเกตจากการที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในไทยหลายแห่งไปเปิดออฟฟิศและโรดโชว์ที่ ประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า นักลงทุนชาวจีนยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญของแผนการตลาดในปีหน้า จากทั้ง 3 ส่วนดังกล่าวข้างต้นทำให้สามารถ คาดการณ์ได้ว่าปีหน้าเม็ดเงินใน การลงทุนด้านการตลาดประเทศจีนของบริษัทต่างๆในไทยจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

"กลยุทธ์ในการทำตลาดของ เอวีจี ไทยแลนด์ ในปี 2018 ชฎากร ได้กล่าวว่า จะใช้จุดแข็งการเป็นบริษัทที่ มีบริการแบบครบวงจร โทเทิ่ล ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น สำหรับทำการตลาดในประเทศจีน แต่จะเน้นโซเชียลมีเดีย มาร์เก็ตติ้ง (Social Media Marketing) มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ ดีมากจากลูกค้า และเอวีจีเองมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นพิเศษ นับตั้งแต่การสร้างออฟฟิเชียลแอ คเคาท์ (Official Account) ที่สามารถทำได้อย่างถูกต้องภายใ ต้ชื่อบริษัทของลูกค้าเอง ด้านโอเปอเรชั่นรวมถึง Influencer Marketing ที่มีInfluencer มากกว่า 1.38 ล้านคน บนฐานข้อมูล หรือแม้แต่การทำ E-Commerce บน Weibo, WeChat และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับWeChat Official Account เช่น การทำ Mini Game ระบบ Booking, Payment ซึ่งในทุกๆ ส่วนที่กล่าวมา บริษัทฯ มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ที่จะดูแลทุกอย่างให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร” ผู้บริหารกล่าว

 

AVG Thailand ก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่าง AVG บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลม าร์เก็ตติ้งในจีนระดับแนวหน้าของเอเชีย และ YDM Thailand (วายดีเอ็ม ไทยแลนด์)  บริษัทดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการนำธุรกิจไปเปิดตลาดที่จีน, เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนจีนที่ เดินทางมาประเทศไทย และนักลงทุนชาวจีน โดยมีจุดเด่นคือ การให้บริการแบบ Total Digital Marketing กับลูกค้า นอกเหนือจากความเป็นผู้เชี่ยวชาญดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งในจีนแล้ว ยังเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวที่ได้ Authorized Partner กับสื่อดิจิตอลยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 ในจีน  Baidu, Alibaba, Tencent ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการทำการตลา ดในประเทศจีน และมีเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ ที่รวบรวม Influencer ชาวจีนมากกว่า 1.38 ล้านค้นในฐานข้อมูล ที่พร้อมโปรโมทธุรกิจในจีนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เราให้บริการแบบครบวงจร โดยดูแลให้ตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มจาก Strategic Planning การสร้างแบรนดิ้งในจีน, การวางแผนสื่อดิจิตอล, การทำเทรนนิ่ง,  การทำอี-คอมเมิร์ซ, ไปจนถึงการทำ e- payment