ฟื้นตลาดรังนกไทยส่งออกไปจีนล๊อตแรกราคาดีตลาดสดใส

17 พ.ย. 2560 | 04:40 น.
ความคืบหน้าส่งออกสินค้ารังนกล๊อตแรก ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ปริมาณ 112 กิโลกรัม ราคากก.ละ 1.6แสน รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาทคาดส่งออก 3 ตันต่อปี มูลค่า 500 ล้านบาท ด้านกรมปศุสัตว์ พร้อมขยายการรับรอง แหล่งผลิตรังนกมากขึ้น สนองความต้องการตลาดจีนที่มีปีละ 1,000 ตัน

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการส่งออกรังนกไปประเทศจีน ว่า หลังจากกระทรวงควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันโรค AQSIQ ของจีน ได้ออกประกาศอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์รังนกของไทยตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.2560 โดยให้นำเข้ารังนกที่มีสีขาว เหลือง หรือทองนั้น ประเทศไทยจะสามารถส่งออกสินค้ารังนกล๊อตแรกได้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ปริมาณ 112 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 18 ล้านบาทในราคากิโลกรัมละ 160,000 บาท

chatti

ที่ผ่านการควบคุมกำกับดูแลขบวนการผลิตรังนกโดย กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีข้อกำหนดในเรื่องการขึ้นทะเบียน แหล่งผลิตรังนกบ้าน(ถ้ำ) มีการจัดการระบบการป้องกันโรค มีแผนการตรวจสอบสารตกค้าง รวมถึงศูนย์รวบรวมรังนกต้องมีระบบ GMP และ HACCP ที่ได้รับรองโดยกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ โดยปัจจุบัน หน่วยงาน CNCA ของจีนได้ขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์รังนกของไทยแล้ว จำนวน 2 แห่ง ถ้ำรังนก 21 แห่ง คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมียอดส่งออกผลิตภัณฑ์ รังนกไปยังประเทศจีนได้ต่อเนื่อง และในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมียอดส่งออกผลิตภัณฑ์รังนกไปประเทศจีนประมาณ 500 ล้านบาท

ด้านนายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เป็นโอกาสของรังนกไทย เพราะรังนกไทยเป็นที่นิยม เนื่องจากมีคุณภาพสูง เนื้อแน่น หอมนุ่ม และไม่ละลายง่าย นอกจากนี้ประเทศจีนยังมีความต้องการบริโภคอีกมาก สืบเนื่องจาก จีนยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม2559 อนุญาตให้คู่สามีภรรยาสามารถมีลูกคนที่สองได้ มีผลให้ความต้องการรังนกของตลาดจีนสูงขึ้น เพราะสรรพคุณในการพัฒนาการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ สร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้เด็กคลอดออกมาแข็งแรง พบว่าข้อมูลการบริโภครังนกของจีน เพิ่มขึ้นปีละ 22 % มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

nest1

ปัจจุบันมีการบริโภค 1,000 ตันต่อปี ทั้งหมดต้องพึ่งพาการนำเข้าทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่แหล่งของนกอีแอ่นกินรังตามธรรมชาติ ปัจจุบัน ถ้ำรังนกที่ขึ้นทะเบียนกับประเทศจีน สามารถส่งออกได้มีจำนวน 21 ถ้ำ สามารถผลิตรังนกได้ ปีละ 8 ตัน จึงมีความต้องการแหล่งวัตถุดิบอีกมาก กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯมีความพร้อมที่จะให้การรับรอง แหล่งผลิตรังนกให้มากขึ้น

“นอกจากนี้ กรณีรังนกบ้าน หรือ รังนก คอนโด ปัจจุบันมีจำนวน 10,020 หลัง กรมปศุสัตว์ยังไม่สามารถให้การรับรองได้ เนื่องจาก พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ไม่อนุญาตให้เก็บรังนกอีแอ่น นอกสัมปทาน แต่ในขณะนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้เสนอแก้ไขกฎหมายโดยเพิ่มเติม มาตรา 12 ในร่าง พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ... สามารถขออนุญาตเก็บรังนกอีแอ่น นอกสัมปทาน กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นลำดับ หากสามารถปลดล๊อกได้ จะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่นำรายได้เข้าประเทศได้จำนวนมาก” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวทิ้งท้าย

e-book