บมจ.การบินกรุงเทพ ชี้แจงกรณีข่าวสถานะที่ดินราชพัสดุของสนามบินสมุย ยืนยันไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการปฎิบัติการบินและการดำเนินกิจการของสนามบินสมุย
15 พฤศจิกายน 2560 – ตามที่มีปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน กรณีความเห็นของกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับสถานะที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.๙๕๘ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสนามบินสมุย ที่ทางกรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ดำเนินกิจการสนามบินสมุย ทำสัญญาเช่าเพื่อใช้เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ว่าอาจจะมีลักษณะเป็นป่าพรุทำให้ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินราชพัสดุได้นั้น
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การเปลี่ยนแปลงสถานะของที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว กระทบกับกิจการเดินอากาศซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชุมชน ทางหน่วยงานราชการจึงได้เรียกผู้เกี่ยวข้องประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยมีอธิบดีกรมธนารักษ์ ตัวแทนจากกรมที่ดิน ตัวแทนจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
โดยให้ความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสถานะของที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.๙๕๘ นั้นไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการปฏิบัติการบินและการดำเนินกิจการของสนามบินสมุย รวมทั้งไม่กระทบกับขนาดของอากาศยานและจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการ ณ สนามบินสมุยในปัจจุบัน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามประกาศกระทรวงคมนาคม พ.ศ.2535 อยู่แล้ว โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2479 ว่าด้วยการกำหนดเขตบริเวณใกล้เคียงสนามบิน หรือสถานที่ตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศให้เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และห้ามมิให้ทำการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับที่บริษัทฯ ได้ขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวเพื่อใช้เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยมิได้มีการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรือมีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในบริเวณดังกล่าว
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอยืนยันว่าทางบริษัทฯ ได้ทำการขอเช่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่ทางราชการกำหนดไว้ทุกประการ โดยทางสนามบินสมุยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารเป็นสำคัญ และยังคงให้บริการทุกสายการบินที่มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากเกาะสมุยตามปกติทุกวัน