มาเซราติ เลอวานเต้ ดีเซล เอสยูวีอารมณ์ศิลปิน

18 พ.ย. 2560 | 11:39 น.
มาเซราติ รถยนต์แบรนด์ล่าสุดที่ “เอ็มจีซี-เอเชีย” จับเข้ามาอยู่ในพอร์ต เรียกว่าเติมเต็มโปรดักต์ระดับหรูที่มีอยู่ในมือโดยไม่ทับซ้อนตำแหน่งหรือราคากันเอง

MP33-3314-3A ลองไล่ดูจาก มิลเลนเนียม ออโต้ เมกะดีลเลอร์ของ “บีเอ็มดับเบิลยู” ขายรถในช่วงราคา 2-7 ล้านบาท(ไม่นับกลุ่มรถสมรรถนะสูง) และ“แอสตัน-มาร์ติน” 15-25 ล้านบาท ส่วนอัครยานยนต์ “โรลส์รอยซ์” ประมาณ 30 ล้านบาท ดังนั้น“มาเซราติ” ก็มาเสียบช่องว่างของ 8-15 ล้านบาทพอดี

“มาเซราติ ไทยแลนด์” ภายใต้ บริษัท ดีไซน์ มอเตอร์เวอร์ จำกัด เซ้งธุรกิจต่อมาจาก “เอ็มไพร์ มอเตอร์สปอร์ต” และประกาศลุยธุรกิจรถหรูจากอิตาลีอย่างเป็นทางการในไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ก็นำรถไปอวดโฉมออกงานพร้อมเปิดรับจอง

MP33-3314-4A โดยมาเซราติ ที่เป็นรุ่นขายหลักคือเอสยูวี “เลอวานเต้” ครองสัดส่วน 80% ที่เหลือ 20% เป็นซาลูนรุ่น “กิ๊บลี” ซึ่ง “เลอวานเต้”เองก็เพิ่งจะได้โควตารถพวงมาลัยขวามาส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

สำหรับเลอเวานเต้ ที่ขายในช่วงแรกเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ราคา 7.99 ล้านบาท แต่ถ้ารับออพชันเพิ่มที่เรียกว่า GranLusso คันที่ผมนำมาขับจะขยับราคาเป็น 8.39 ล้านบาท มาพร้อมระบบปรับอากาศ 4 โซน หลังคาซันรูฟ เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ชนิดพิเศษ และแผงประตู-หลังคาบุด้วยหนังอาคันทารา ระบบอุ่นเบาะหน้า และล้ออัลลอยวงโต 20 นิ้ว (รุ่นพื้นฐานใช้ 19 นิ้ว) เสริมระบบความปลอดภัย ทั้ง Adaptive cruise control ควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า,Blind spot alert ส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาจากมุมบอดด้านข้าง, Lane departure warning เตือนเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทาง รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน

MP33-3314-2A ภายในห้องโดยสารออกแบบดุจงานศิลปะ เน้นความคลาสสิกดูมีคุณค่า นาฬิกาแบบเข็ม ปุ่มควบคุม มาตรวัด หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.4 นิ้ว ชุดเครื่องเสียง Harman Kardon ขณะที่หมอนรองศีรษะปักโลโกตรีศูลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ดูหรูหราไปอีกระดับ

ตัวรถหากจอดนิ่งอยู่เฉยๆ เมื่อมองจากภายนอกดูมีพลัง ขณะที่ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (cd) 0.31 ถือว่าตํ่ามากในกลุ่มเอสยูวี ตัวถังใหญ่ขนาดนี้ เหนืออื่นใดพอเข้าไปนั่งภายในยิ่งรู้สึกถึงความเข้มขลัง ส่วนหนึ่งเพราะเบาะนั่งสีแดง และการแต้มแต่งแบบมีสไตล์ แป้นแพดเดิลชิฟต์ยาวใหญ่เป็นพิเศษ สะท้อนถึง DNA ความสปอร์ตและตำนานบนสนามแข่ง พร้อมการเก็บเสียงรบกวนจากการจราจรภายนอกได้ดี แม้มีเสียงเครื่องยนต์ดีเซลแทรกเข้ามาเล็กน้อยในจังหวะกระแทกคันเร่ง

MP33-3314-8A อย่างไรก็ตาม ผมว่าตำแหน่งการวางเท้าซ้ายของคนขับจะผิดธรรมชาติไปนิดและบีบขาซ้ายพอสมควร เพราะติดซุ้มเกียร์ที่เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ (ออกแบบคอนโซลกลางยาวตั้งแต่ด้านหน้าผ่าตรงกลางลำตัวรถ) ซึ่งผมว่ากินพื้นที่มากไป
ส่วนการขับขี่ สมรรถนะมาเต็มจากเครื่องยนต์ดีเซล วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ 275 แรงม้า ส่วนแรงบิด 600 นิวตัน-เมตรมาในรอบตํ่า แต่อยู่ในช่วงสั้นๆ 2,000-2,600 รอบ/นาที ประกบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด นำพารถที่มีนํ้าหนักระดับ 2 ตันได้อย่างไม่มีปัญหา อัตราเร่งดีตั้งแต่ออกตัว ตอบสนองรวดเร็ว

ขณะที่ช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับสูง-ตํ่า ให้เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ได้ กล่าวคือหลังจากสตาร์ตเครื่องยนต์ค่า “ดีฟอลต์” จะตั้งไว้ที่ “นอร์มอล” จากนั้นถ้ากดโหมดสปอร์ต 1 ครั้ง ระบบจะปรับแค่การกระจายกำลังสู่ล้อหน้าหลัง แต่ถ้าขยับเป็น “สปอร์ต 2” คราวนี้จะกดตัวรถให้เตี้ยลง 25 มม. และถ้าวิ่งความเร็วเกิน 180 กม./ชม. จะลดให้อีก 10 มม. เพื่อเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด

MP33-3314-7A นอกจากนี้ ยังมีโหมด “ออฟโรด” ที่พอกดปุ่มสั่งงานแล้ว รถจะล็อกการกระจายแรงไปยังล้อหน้า-หลังเท่ากันที่ 50/50 พร้อมยกรถให้สูงขึ้นอีก 25มม.(จากโหมดนอร์มอล) หากกดซํ้าอีกครั้งจะขึ้นสูงสุดเป็น 40 มม. เพิ่มความสามารถในการข้ามผ่านอุปสรรคได้เต็มที่

ภาพรวมของเลอวานเต้ ดีเซล ถือว่าประสิทธิภาพการทรงตัวยอดเยี่ยมกับตัวถังที่มีความยาว 5 เมตร พร้อมช่วงล่างออกแนวหนึบแน่น ส่วนพวงมาลัยยังเป็นระบบผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิกและมีนํ้าหนักมากไปนิด รู้สึกได้เมื่อขับช้าความเร็วตํ่า ทั้งนี้การขับในสภาพปกติ(ทางตรงใช้ความเร็วนิ่งๆ) รถจะพยายามส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อคู่หลังเป็นหลัก และแปรผันกำลังไปยังล้อหน้าตามลักษณะการขับขี่ที่เปลี่ยนไป แต่จะแบ่งไปล้อหน้าไม่เกิน 50%

MP33-3314-1A ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันของเลอวานเต้ ดีเซล มาเซราติเคลมตัวเลขไว้ 13.88 กม./ลิตร ส่วนการขับจริงของผมได้อยู่แถวๆ 9-10 กม./ลิตรครับ

รวบรัดตัดความ...เอสยูวีที่มีแนวทางเป็นของตนเอง ทั้งการออกแบบสไตล์อิตาลี เส้นสายเซ็กซี่มีเสน่ห์ สมรรถนะออกแนวสปอร์ตชัดเจน โดยเฉพาะการควบคุมและช่วงล่าง ดิบกว่าเอสยูวีจากเยอรมนี ที่สำคัญเมื่อจอดอยู่บนถนนจะโดดเด่น เหมือนสะกดให้ผู้คนจับจ้องสงสัยในตัวรถที่แปะโลโกตรีศูลคันนี้ ว่ามันคือยานพาหนะหรืองานศิลปะ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว