‘เทรเวลลอดจ์’รุกคืบเอเชีย ปั๊มบัดเจ็ตโฮเต็ล3 ดาวตีตลาดรร.ไทย

18 พ.ย. 2560 | 11:48 น.
หากกล่าวถึงโรงแรมแบรนด์ ‘เทรเวลลอดจ์’ อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนไทยและเอเชียมากนัก แต่นับจากนี้เราจะเริ่มเห็นบัดเจ็ตโฮเต็ลระดับ 3 ดาว จากฝั่งยุโรป แบรนด์นี้เข้ามาเจาะตลาดการบริหารโรงแรมในภูมิภาคนี้มากขึ้น อ่านได้จากสัมภาษณ์นายสตีเฟน เบิร์ท ประธานเทรเวลลอดจ์ เอเชีย และนายโจนาธาน วิกลีย์ ประธานบริหาร เทรเวลลอดจ์ ประเทศไทย

[caption id="attachment_231266" align="aligncenter" width="358"] สตีเฟน เบิร์ท ประธานเทรเวลลอดจ์ เอเชีย สตีเฟน เบิร์ท ประธานเทรเวลลอดจ์ เอเชีย[/caption]

++ปักธง 50 แห่งในเอเชียปี 63
“สตีเฟน เบิร์ท” ฉายภาพให้เราฟังว่า ปัจจุบันโรงแรมเทรเวลลอดจ์ มีสาขาทั่วโลกเกือบ 1 พันแห่งในยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และได้ขยายสาขาเข้ามายังเอเชียในปี 2560 เริ่มต้นด้วยการเปิดให้บริการโรงแรมเทรเวลลอดจ์ เกาลูน ฮ่องกง ต่อด้วยเทรเวลลอดจ์ เซ็นทรัล ฮอลลีวู้ด โรด ที่ฮ่องกงเช่นกัน ตามด้วย 2 แห่งในไทย ได้แก่ เทรเวลลอดจ์ พัทยา และเทรเวลลอดจ์ สุขุมวิท 11

อีกทั้งในปี 2561 จะเปิดเทรเวลลอดจ์ บาตัม อินโดนีเซีย เดือนมกราคมนี้ ตามด้วยอีก 2 โรงแรมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ขณะเดียวกันเรากำลังเจรจาขยายสู่ สิงคโปร์ โตเกียว โซล จาการ์ตา บาหลี และเวียดนาม และอีกหลายแห่งต่อเนื่องตลอดปีจนครบ 15 แห่ง โดยเป้าหมายระยะสั้น ภายในปี 2563 จะมีโรงแรมเทรเวลลอดจ์ 50 แห่งในเอเชีย ทั้งนี้จำนวนโรงแรมในทวีปเอเชียยังนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับภาพรวมของแบรนด์เทรเวลลอดจ์ แต่เอเชียมีโอกาสในการเติบโตมากสำหรับแบรนด์เรา

“เอเชียเป็นตลาดใหญ่ และด้านการตลาด แบรนด์โรงแรมระดับกลาง มีโอกาสเติบโตมากกว่าโรงแรมระดับบนจนถึงระดับหรู ในแง่ของความสามารถในการปรับตัวโดยรวม เอเชียมีประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกอยู่ถึง 3 ประเทศจาก 4 อันดับแรก ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย และอินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆที่มีจำนวนประชากรมาก ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม เมียนมา เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ รองรับนักท่องเที่ยวระดับกลางที่เดินทางภายในภูมิภาค รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะไกลจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย ซึ่งแบรนด์เทรเวลลอดจ์เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับจากนักเดินทางจากประเทศเหล่านี้เป็นพื้นฐาน จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเทรเวลลอดจ์ในเอเชีย รวมถึงทำให้เจ้าของโรงแรมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะเวลาอันสั้น”

จุดเด่นของแบรนด์เทรเวลลอดจ์ที่แตกต่างจากแบรนด์โรงแรมระดับกลางอื่นๆ เรามองว่าจากความต้องการของลูกค้า เรามองเห็นถึงความสำคัญของที่ตั้งโรงแรม การตั้งราคาที่คุ้มค่า และความปลอดภัยในระดับสูงเป็นหลัก การวางตำแหน่งของแบรนด์มาจากความเข้าใจอย่างแท้จริงที่มีต่อลูกค้า และนำเสนอบริการอันเป็นเอกลักษณ์ของเทรเวลลอดจ์ อันได้แก่ สัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทุกพื้นที่ภายในโรงแรมฟรี, โปรแกรมสมาชิก TravelodgeR ที่สามารถสมัครแล้วรับสิทธิประโยชน์ได้ทันที, The Lodge พื้นที่อเนก ประสงค์ บริการอาหาร ที่นั่งพักผ่อน พบปะสังสรรค์ เปิดบริการตลอดวัน เตียงนอนและเครื่องนอน ระดับเดียวกับที่ใช้ในโรงแรมหรู

บาร์ไลน์ฐาน จากมุมมองของเจ้าของ เราทุ่มเทให้กับการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งต้องอาศัยหลายปัจจัยเกี่ยวโยงกัน โดยเฉพาะการลดต้นทุน ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงเล็งเห็นว่าโรงแรมระดับกลางไม่สามารถแบกรับต้นทุนในการรักษาฐานลูกค้าระดับหรูได้ ดังนั้นเราจึงออกแบบโปรแกรมสมาชิก TravelodgeR ที่ให้สิทธิประโยชน์อย่างชัดเจนแก่ลูกค้าของเรา โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าการรักษาฐานลูกค้าระดับหรูมาก

ความหลากหลายคือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เครือโรงแรมหลายแห่งบอกว่าพวกเขาสามารถบริหารโรงแรมในเอเชียเช่นเดียวกับที่ทำในยุโรปหรืออเมริกาได้ แต่ เราคิดต่าง เรามองว่าหลายประเทศในเอเชีย มีความแตกต่างจากส่วนอื่นในโลก ทั้งวัฒนธรรม กฎหมายแรงงาน แรงขับดันอุปทาน และขั้นตอนทางราชการ ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีและนี่เป็นเหตุผลที่เราต้องจับมือกับเทรเวลลอดจ์ ประเทศไทย โดยเทรเวลลอดจ์ เอเชีย ดูแลแบรนด์การตลาด ระบบบริหาร ช่องทางการขายภาพใหญ่ ขณะที่ทีมงานของโจนาธานโฟกัสการบริหารโรงแรมในไทยด้วยความเชี่ยวชาญ กลยุทธ์นี้จะส่งผลที่ดีที่สุดต่อลูกค้า พนักงาน เจ้าของเงินทุนของเรา

[caption id="attachment_231267" align="aligncenter" width="474"] สตีเฟน เบิร์ท ประธานเทรเวลลอดจ์ เอเชีย สตีเฟน เบิร์ท ประธานเทรเวลลอดจ์ เอเชีย[/caption]

++ปี 61 เปิด 15 รร.ในไทย
ในส่วนของการขยายแบรนด์โรงแรมเทรเวลลอดจ์ในไทยนั้น “โจนาธาน วิกลีย์” เปิดใจว่าการร่วมมือกับเทรเวลลอดจ์ เอเชีย เราจึงสามารถดึงแบรนด์โรงแรมระดับโลกเข้ามายังไทยได้ ทำให้บริษัทของเรามีศักยภาพที่จะแข่งขันในตลาดโรงแรมระดับกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แผนการขยายโรงแรมรุกหน้าอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ

ดังจะเห็นได้จากการเริ่มต้นในปี 2560 ที่หัวเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างที่ กรุงเทพฯ และพัทยา และกำลังจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ด้วยเป้าหมายอย่างน้อย 15 โรงแรม บริการห้องพัก 3,000 ห้องภายในปี 2561 เน้นหัวเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างเช่น เชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น หัวหิน พัทยา จอมเทียน ระยอง ภูเก็ต เขาหลัก สมุย และกระบี่ โดยอิงตามการเติบโตอย่างมากของปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังไทย จากแรงผลักดันของสายการบินโลว์คอสต์ ทำให้ความต้องการที่พักในระดับกลางที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“ในระยะยาว เราจะเพิ่มจำนวนโรงแรมภายใต้แบรนด์เทรเวลลอดจ์ในไทยไปถึง 50 แห่ง บริการห้องพัก 10,000 ห้อง ภายในปี 2563 เนื่องด้วยแบรนด์เทรเวลลอดจ์ เป็นแบรนด์ที่มีความยืดหยุ่นสูงจึงสามารถเข้าบริหารโรงแรมทั้งรูปแบบการเข้ารีแบรนดิ้งและการบริหารโรงแรมสร้างใหม่ สำหรับนักลงทุนที่สนใจพัฒนาโครงการด้วยแบรนด์เทรเวลลอดจ์ในไทย สามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่ 1.2 ล้านบาท ไปจนถึง 1.5 พันล้านบาท (ไม่รวมต้นทุนค่าที่ดินและการเงิน)”

ในส่วนการตอบรับของโรงแรมในไทยที่เปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โรงแรมเทรเวลลอดจ์ พัทยา มียอดการเข้าพักเฉลี่ย 80-90% ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนโรงแรมเทรเวลลอดจ์ สุขุมวิท 11 ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เราคาดหวังยอดการเข้าพักปี 2561 ในระดับกลางที่เฉลี่ยวันละ 80% ของจำนวนห้องพัก โรงแรมทั้ง 2 แห่งมีส่วนผสมของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งจากเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย
เขายํ้าว่าภาคธุรกิจการบริการของไทยมีความมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นความท้าทายและความจริงที่เราเผชิญนั้นมักเป็นเรื่องเดิม เช่น ทรัพยากรบุคคล การเทคโนโลยีเพื่อปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงมุ่งเน้นไปที่การดึงดูด การพัฒนา และการรักษาทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของเรา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว