อาเซียนคือจุดเชื่อมความร่วมมือ

18 พ.ย. 2560 | 11:58 น.
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกาที่ประเทศฟิลิปปินส์ต้นสัปดาห์นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยกย่องบทบาทของ “อาเซียน” ในการเป็นเวทีศูนย์กลางในการหารือสร้างความร่วมมือ และยํ้าว่าสหรัฐฯต้องการเสริมสร้าง “มิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วน” กับ 10 ชาติอาเซียน

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาเปิดประชุม “อาเซียน-สหรัฐฯ ซัมมิต” ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องการเห็นพันธมิตรในอาเซียนมีความเข้มแข็ง เป็นอิสระ และมีความเจริญรุ่งเรือง “ผมขอกล่าวในนามประชาชนชาวอเมริกัน 350 ล้านคนที่ส่งถ้อยคำแห่งมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนมายังท่านทั้งหลาย ผมมาที่นี่เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และร่วมมือกับทุกท่านในการดำรงไว้ซึ่งอิสรภาพที่แท้จริงและความเปิดกว้างแห่งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมย่อยที่เกิดขึ้นคู่ขนานกับการประชุมระดับผู้นำของอาเซียนครั้งที่ 31 ซึ่งปีนี้ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ

TP10-3314-1B ผู้นำสหรัฐฯกล่าวชื่นชม 10 ชาติอาเซียนว่ามีความเป็นปึกแผ่นมาตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นการรวมกลุ่มที่สำคัญของชาติที่ร่วมกันเผชิญสถานการณ์ต่างๆ ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกด้วยฉันทามติ สหรัฐฯขอให้การสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการเป็นเวทีศูนย์กลางแห่งความร่วมมือที่สำคัญ ซึ่งจะนำความมั่นคงและมั่งคั่งมาสู่ประชาชนทุกคนของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและรวมถึงประชาชนชาวอเมริกันด้วย ไม่เพียงเท่านั้น สหรัฐฯยังต้องการแสวงหาพันธมิตรทางเศรษฐกิจ ตลอดจนความเป็นหุ้นส่วนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมและต่างตอบแทนกัน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

บาร์ไลน์ฐาน สหรัฐฯเองมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ที่เขาได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯได้ขยับสูงขึ้นคิดเป็นมูลค่าถึง 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งยังมีระดับอัตราการว่างงานตํ่าที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบ 17 ปี บริษัทอเมริกันเริ่มกลับมาลงทุนขยายธุรกิจในประเทศกันมากยิ่งขึ้น สภาวะต่างๆ ที่ดีขึ้นนี้ทำให้บรรยากาศการค้าการลงทุนมีความกระตือรือร้นในระดับสูงสุด ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสหรัฐฯและอาเซียนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดมา เป็นที่สังเกตว่า ในการเยือนเวทีการประชุมระดับผู้นำของอาเซียนครั้งนี้ ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งมักจะเป็นประเด็นอ่อนไหวที่ชาติมหาอำนาจตะวันตกนำมาติเตียนชาติสมาชิกอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ เมียนมา รวมทั้งไทย อยู่เสมอๆ ไม่ ได้ถูกผู้นำสหรัฐฯหยิบยกขึ้น มากล่าวถึงแต่อย่างใด ทำให้บรรยากาศ มีความเป็นมิตรเกินคาด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว