รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.(14พ.ย.60) เห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. ....ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดนิยามคำว่า “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” “ธุรกิจสร้างสรรค์” “คณะกรรมการ” “ประธานกรรมการ” และ “กรรมการ” ทั้งยังกำหนดให้มี “คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์” เรียกโดยย่อว่า “กสศ.” ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกิน 3 คน เป็นกรรมการ และรองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เป็นกรรมการและเลขานุการ
กำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบด้วย กรรมการทั้งหมดที่มีอยู่จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อครบกำหนดตามวาระ หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่ง เพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
โดยให้ กสศ. มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ แผนพัฒนาธุรกิจสร้างสรรค์รายสาขา และแผนพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ เสนอแนะ และให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีในการสนับสนุนและเร่งรัด การดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนงานที่กำหนด และมีอำนาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความเชี่ยวชาญให้เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่มอบหมาย เป็นต้น
ทั้งนี้ ให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ ครม.ตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้