การพัฒนาเกษตรกรที่ ‘กลุ่มมิตรผล’ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง กำลังดำเนินต่อไป ภายใต้แนวคิดที่พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพเกษตรกรให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ... บรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มมิตรผล บอกว่า มิตรผลทำธุรกิจอ้อยและน้ำตาลมากว่า 60 ปี แต่ประสิทธิภาพของอ้อยและเกษตรกรยังต้องปรับปรุงอีกมาก และปัญหาแรงงาน รวมทั้งคุณภาพของอ้อยยังเป็นปัญหาใหญ่
ต้นทุนด้านแรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนทางตรง สูงขึ้นทุกปี และแรงงานหายากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการรับจ้างตัดอ้อยได้เงินไม่มากและเหนื่อย
กลุ่มมิตรผลแก้ไขด้วยการนำรถตัดอ้อยจากต่างประเทศมาใช้ พร้อมทั้งนำความรู้จากออสเตรเลียเข้ามาเสริมประสิทธิภาพ
กลุ่มมิตรผลได้นำปัญหาทั้งหลายประมวล แล้วนำความรู้ที่ได้มาส่งต่อให้กับเกษตรกรในการบริหารงานไร่อ้อย สร้างระบบการจัดการไร่อ้อยให้เกิดประสิทธิผลและยั่งยืน
ตามแนว ‘มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม’ ที่เพิ่มประสิทธิผล ลดต้นทุน ลดการใช้แรงงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม
ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานระบบสากล BONSUCRO SUSTAINABILITY ซึ่งล่าสุด กลุ่มมิตรผลได้นำ ‘หนองแซงโมเดล’ ที่มีการพัฒนาร่วมกับชุมชนหมู่บ้านหนองแซง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มาเป็นต้นแบบ
แนวการทำงานของ ‘หนองแซงโมเดล’ คือ การร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับ ‘ร่วมอยู่ ... ร่วมเจริญ’ ภายใต้หลักการดำเนินงาน นำไร่ที่แต่ละคนมีมารวมกัน แล้วนำเครื่องมือที่มีอยู่มาร่วมกันทำ จัดกลุ่มทำงานเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มรถกล่อง, กลุ่มรถไถเตรียมดิน, กลุ่มรถวีแนส และกลุ่มอ้อยมัด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิผล สร้างรายได้ให้กับกลุ่มหนองแซง 42.3 ล้านบาท พื้นที่ตรงนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผลยังส่งเสริมการสร้างรายได้จากการนำแนวคิด ‘หลักเศรษฐกิจพอเพียง’ เข้ามาใช้
ทำโครงการ ‘ปลูก เพาะ สุข’ ในช่วงที่ตัดอ้อยไปแล้ว เกษตรกรสามารถสร้างรายได้จากการทำคันบ่อ เลี้ยงปลา ปลูกผัก สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มเติม กลุ่มมิตรผลจะจัดทำศูนย์เรียนรู้ใน 7 จังหวัด ที่มิตรผลมีโรงงานตั้งอยู่ ได้แก่ ขอนแก่น, ชัยภูมิ, เลย, กาฬสินธุ์, อำนาจเจริญ (กำลังจะสร้าง), สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี แห่งละ 10 ที่ ส่วนไร่ที่ได้รับรองมาตรฐาน BONSUCRO SUSTAINABILITY ปีแรกสามารถทำได้ 5 หมื่นไร่ ซึ่งพื้นที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 6 แสนไร่ ในอนาคต โดยตั้งเป้าว่า ปี 2564 จะได้น้ำตาล 6 แสนตัน บนพื้นที่ 4 แสนไร่
กลุ่มมิตรผลยังมีโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแรงงานเกษตรกร คือ
โครงการ ‘ทายาทเถ้าแก่’ เอาทายาทเกษตรกรมาฝึกการทำโมเดิร์นฟาร์ม ฝึกการขับรถ และยังมีโครงการที่นำลูกหลานเกษตรกร ไปเรียน ปวช., ปวส. ร่วมกับเทคนิคในจังหวัดนั้น ๆ และยังมีโอกาสได้มาฝึกงานกับมิตรผลด้วย ขณะเดียวกัน ก็จ้างแรงงานคนขับรถในอัตราสูง ไม่รวมจำนวนอ้อยที่เขาตัดได้ 1 ตัน จะได้อีก 2-3 บาท ปีหนึ่งตัดได้ 2-3 หมื่นตัน ก็ได้อีกแสนกว่าบาท ถือมาเป็นโบนัสในการทำงาน และยังเพิ่มทักษะการทำงาน ทั้งเรื่องการขับรถ ดูแล ซ่อมรถ ใช้เครื่องทุ่นแรงในไร่อ้อย
ซึ่งอนาคตกลุ่มมิตรผลมีแผนที่จะจัดทำ ‘โมเดิร์นฟาร์ม อะคาเดมี’ ที่ไม่เพียงเปิดให้ลูกหลานเกษตรกรได้เข้ามาศึกษา แต่ยังรวมถึงผู้สนใจทั่วไปด้วย โดยสถานที่จัดตั้งอาจจะเป็นชัยภูมิหรือขอนแก่น
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16-18 พ.ย. 2560 หน้า 28