ก้าวคนละก้าว The Startup Phenomenon

16 พ.ย. 2560 | 23:05 น.
MP25-3314-1A ตอนนี้คนไทยรู้จักโครงการ “ก้าวคนละก้าว” กันทั้งประเทศหลายคนติดตาม หลายคนเอาใจช่วย หลายคนลุ้น และหลายคนบริจาคร่วมด้วย นี่เป็นโครงการที่สว่างสดใสเหลือเกิน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของสิ่งต่างๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย สำหรับผมและชาวStartup นี่เป็นโครงการที่น่าศึกษามาก เป็นตำราการตลาดเล่มใหญ่ได้ทีเดียว

ที่มาของโครงการในครั้งนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2559 มีโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ โดยคุณตูน บอดี้สแลม ระดมทุนด้วยการวิ่งเป็นระยะทาง 400 กิโลเมตร มีคนไทยทั่วประเทศช่วยกันบริจาคถึง 85 ล้านบาท และทำให้คนไทยหันมาออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะการวิ่ง จนเกิดกระแส “Running Boom”

MP25-3314-2A ในปี 2560 คุณตูนพบว่าโรงพยาบาลศูนย์ตามจุดยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขอีกหลายแห่งยังขาดแคลนอุปกรณ์ จึงได้เลือก 11 โรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่เพื่อระดมทุนช่วยเหลือในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จากโครงการครั้งก่อนเพียงแค่ 1โรงพยาบาล เพิ่มมาเป็น 11 โรงพยาบาล ทำให้ต้องเพิ่มระยะทางเพิ่มวันในการวิ่ง เพื่อให้ได้เงินบริจาคตามเป้าประสงค์ คือ 700 ล้านบาท โครงการ “ก้าวคนละก้าว” จึงเกิดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และสิ้นสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กิโลเมตร มีการควบคุมดูแลการวิ่งโดยผู้เชี่ยวชาญและคณะแพทย์ การวิ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560และวิ่งติดต่อกัน 4 วันพัก 1 วัน จบในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 รวมระยะเวลา 55 วัน ผมได้ยินโครงการนี้ครั้งแรกบอกเลยว่าตกใจครับเป็นห่วงคุณตูน เป็นห่วงทีมงาน เพราะไม่ง่ายเลย

ถึงวันที่ผมเขียนต้นฉบับคุณตูนวิ่งไปแล้ว 13 วัน เก็บระยะไปแล้วกว่า 500 กิโลเมตร (แค่นี้ก็สุดยอดแล้วนะ ทำลายสถิติปีที่แล้วเรียบร้อย) และยังคงวิ่งต่อไปอย่างน่าตื่นเต้น ที่ผมกล่าวว่าตำราการตลาดเล่มใหญ่ในตอนต้นผมหมายถึงอะไร การวิ่งในครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากมายในหลากหลายด้าน มาดูกันครับ

เริ่มตั้งแต่การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย (SMART Goal) ในทางบริหารธุรกิจ การตั้งเป้าหมายที่ดีต้อง Specific มีความง่ายและชัดเจนMeasurable สามารถวัดได้ทั้งระยะทาง จำนวนเงินบริจาค Attainableสามารถไปถึงได้ คุณตูนตรวจร่างกายละเอียดมากทั้งทีมแพทย์ในประเทศไทยและของไนกี้ที่ต่างประเทศ Realistic ทำได้จริงเป็นสิ่งที่คนทำอยากทำและตั้งใจทำด้วย ตอนเห็นตัวเลขแรกๆ ทุกคนร้องโอ้โห ใจหนึ่งคิดว่าเว่อร์ ใจหนึ่งก็ลุ้นให้ทำได้ นี่แหละเป้าหมายที่ดีครับ สุดท้าย Timely มีระยะเวลากำหนด วิ่ง 55 วัน วิ่ง 4 พัก 1 แต่ละวันมีเวลากำกับชัดเจน มืออาชีพมากๆ นี่เป็นการตั้งเป้าหมายที่ทำให้ทุกคนเห็นได้ชัดเจนทำให้เกิดความตั้งใจร่วมกันครับ

ในแง่ของการสื่อสารบ้าง งานนี้เรียกว่าครบทุกสื่อทุกช่องทาง ทุกกลยุทธ์ ตั้งแต่การตั้งชื่อ (Campaign Naming)ที่ชัดเจน การใช้สื่อที่หลากหลาย (Integrated Medias) การใช้สื่อสมัยใหม่ (Modern Media) ตามคำแนะนำของ Facebookเลย ตั้งแต่ Relevant เลือกการวิ่งที่ทุกคนทำได้, Immersive ดื่มดํ่า ติดตามได้ด้วยการ Live ให้เห็นตลอดทุกช่วง ฝนตกยังวิ่งดูแล้วอินมาก ตอนพี่ตูนทรุดลงไป ใจผมนี่วูบไปด้วยเลย Expressiveแสดงออกได้ทุกคน วิ่งด้วย ซื้อของที่ระลึกด้วย กดไลก์ด้วย เปลี่ยนโพรไฟล์ด้วย ถ่ายรูปด้วย (แต่รอเขาวิ่งเสร็จก่อนนะ) ทุกอย่างเป็นExperience ที่ Facebook เคยแนะนำว่าจะมีพลังมากในการสื่อสารครับ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพันธมิตร (Partnership) เรื่องของทำเพื่อสังคม (Social Enterprise) เรื่องของการสร้างแบรนด์(Branding) และที่ลืมไม่ได้คือ แนวคิด Startup คือ คิดแล้วทำเลยจากบทความหนึ่งของ MIT กล่าวว่าผู้บริหารที่ดีต้องเป็น Thinkerand Doer นี่เป็นสิ่งสำคัญของ Startup ครับ หลายคนมีไอเดียแต่ไม่ลงมือก็ไม่เกิดผล ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องทำเลยครับ“ลองแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ลอง” ผมเชื่อว่า “ก้าว” ไม่ได้เป็นแค่โครงการแล้ว แต่กลายเป็น “ปรากฏการณ์ (Phenomenon)”ที่ทำให้คนไทยสามัคคีขึ้น มองสิ่งดีๆ มากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้นและกล้าทำความดีมากขึ้น มา Startup ทำความดีกันเลยครับ บริจาคเลยไม่ต้องรอ อยากให้ถึง 1 พันล้าน เป็น Thai Unicorn Startupไปเลยครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว