ขนส่งทางบกรุกบริการผ่านออนไลน์แนะเลือกชำระภาษีรถง่ายๆแค่ปลายนิ้วอยู่ที่ไหนก็จ่ายได้
กรมการขนส่งทางบก แนะประชาชนใช้ช่องทางชำระภาษีรถที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ด้วยระบบความปลอดภัยและคุ้มครองสิทธิเจ้าของรถ อยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหน เลือกชำระภาษีรถง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพัฒนาการให้บริการประชาชนเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว บนมาตรฐานความถูกต้อง ชัดเจน มีระบบความปลอดภัย คุ้มครองสิทธิเจ้าของรถ ด้วยแนวคิดอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหน ก็ชำระภาษีรถประจำปีได้ง่ายๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทั้งแอพพลิเคชั่น Truemoney Wallet หรือแอพพลิเคชั่น mPAY STATION ใช้งานง่ายๆ ได้ทุกเครือข่ายมือถือ และเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล สู่การยกระดับบริการภาครัฐที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น
กรมการขนส่งทางบกเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกชำระภาษีรถประจำปี ผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้ทางไปรษณีย์
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มีเวลาหรือสะดวกในการเดินทาง กรมการขนส่งทางบกแนะนำช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีแบบ One Stop Service ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วไทย และบริการ “เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ ที่กรุงเทพฯ 5 แห่ง (กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4) และสำนักงานขนส่งจังหวัด 12 แห่ง (เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา นนทบุรี ราชบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี ระยอง ตราด และสระบุรี) และอยู่ระหว่างขยายให้มีครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งไม่ต้องเขียนคำขอรับบริการ ไม่ต้องใช้เอกสารอย่างสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีเท่านั้น ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทันที นอกจากนี้ ได้เพิ่มการอำนวยความสะดวกรับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 14 แห่ง (ลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล3 อ่อนนุช แจ้งวัฒนะ สำโรง บางบอน สุวินทวงศ์ สมุทรปราการ บางใหญ่ บางนา)
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา สาขาลาดพร้าว ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค (พัฒนาการ) รวมทั้งห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการในส่วนภูมิภาคอีก 50 แห่ง ศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิร์ล, เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัล Westgate) ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ และร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นบริการ 24 ชั่วโมง ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอพพลิเคชั่น DLT eForm ของกรมการขนส่งทางบก แหล่งรวบรวมแบบฟอร์มและข้อมูลการติดต่อครอบคลุมทุกเรื่องทางทะเบียนและภาษีรถ พร้อมให้บริการดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้ล่วงหน้า ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน รู้ขั้นตอน ไปติดต่อถูกต้องตรงจุด จัดเตรียมหลักฐานครบถ้วน ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดต่องานกับกรมการขนส่งทางบกครบถ้วน ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่กรมการขนส่งทางบกได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาการให้บริการ เพื่อให้บริการที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเพิ่มการเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างเท่าเทียมในทุกกลุ่ม
งบก,
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพัฒนาการให้บริการประชาชนเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว บนมาตรฐานความถูกต้อง ชัดเจน มีระบบความปลอดภัย คุ้มครองสิทธิเจ้าของรถ ด้วยแนวคิดอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหน ก็ชำระภาษีรถประจำปีได้ง่ายๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทั้งแอพพลิเคชั่น Truemoney Wallet หรือแอพพลิเคชั่น mPAY STATION ใช้งานง่ายๆ ได้ทุกเครือข่ายมือถือ และเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล สู่การยกระดับบริการภาครัฐที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น
กรมการขนส่งทางบกเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกชำระภาษีรถประจำปี ผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้ทางไปรษณีย์
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มีเวลาหรือสะดวกในการเดินทาง กรมการขนส่งทางบกแนะนำช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีแบบ One Stop Service ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วไทย และบริการ “เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ ที่กรุงเทพฯ 5 แห่ง (กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4) และสำนักงานขนส่งจังหวัด 12 แห่ง (เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา นนทบุรี ราชบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี ระยอง ตราด และสระบุรี) และอยู่ระหว่างขยายให้มีครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งไม่ต้องเขียนคำขอรับบริการ ไม่ต้องใช้เอกสารอย่างสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีเท่านั้น ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทันที นอกจากนี้ ได้เพิ่มการอำนวยความสะดวกรับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 14 แห่ง (ลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล3 อ่อนนุช แจ้งวัฒนะ สำโรง บางบอน สุวินทวงศ์ สมุทรปราการ บางใหญ่ บางนา)
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขารามอินทรา สาขาลาดพร้าว ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค (พัฒนาการ) รวมทั้งห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการในส่วนภูมิภาคอีก 50 แห่ง ศูนย์บริการร่วม G-point (เซ็นทรัลเวิร์ล, เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัล Westgate) ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ และร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นบริการ 24 ชั่วโมง ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอพพลิเคชั่น DLT eForm ของกรมการขนส่งทางบก แหล่งรวบรวมแบบฟอร์มและข้อมูลการติดต่อครอบคลุมทุกเรื่องทางทะเบียนและภาษีรถ พร้อมให้บริการดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้ล่วงหน้า ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน รู้ขั้นตอน ไปติดต่อถูกต้องตรงจุด จัดเตรียมหลักฐานครบถ้วน ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดต่องานกับกรมการขนส่งทางบกครบถ้วน ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่กรมการขนส่งทางบกได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาการให้บริการ เพื่อให้บริการที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเพิ่มการเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างเท่าเทียมในทุกกลุ่ม
