อคส.เชิญผู้ชนะประมูลข้าวสต็อกรัฐ11รายแจ้งเงื่อนไขขนย้ายข้าวกว่า5แสนตันก่อนทำสัญญา

14 พ.ย. 2560 | 03:25 น.
อคส.เชิญ 11 ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/ 2560 ประชุมชี้แจงเงื่อนไขสัญญาและมาตรการควบคุมการขนย้ายข้าวสาร ก่อนลงนามในสัญญา ปริมาณ 503,682 ตัน มูลค่า 2,509,907,255 บาท

พลตำรวจโท ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ได้ เชิญผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 จำนวน 11 ราย ได้แก่ บจก.วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป,บจก.กาญจนาอาหารสัตว์,บจก.มหาทรัพย์ฟีด,บจก.เอส.พี.เอ็ม.อาหารสัตว์,หจก.โรงสีทรัพย์แสงทอง 2550,บจก.จิชัย โปรดิวซ์ ,บจก.เอพีเอ็มอะโกร,บมจ.พี.เอส.ซี.สตาร์ซ โปรดักส์,บจก.เชียงรายกิจศิริไซโล 1995 ,หจก.เฮงเพิ่มพูน ,บุรีรัมย์สหสินข้าวไทย เพื่อชี้แจงเงื่อนไขสัญญาและวางมาตรการในการควบคุมในการขนย้ายออกจากคลังสินค้าต้นทางไปยังคลังสินค้าปลายทาง ก่อนลงนามในสัญญา และลงพื้นที่ตรวจสอบคลังสินค้าปลายทางต่อไป

rice1

ทั้งนี้ได้กำหนดขั้นตอนและมาตรการในการควบคุมการขนย้ายข้าว ออกจากคลังสินค้าต้นทางไปจนถึงคลังสินค้าปลายทางที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมของผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐจำนวน 57 คลัง ใน 23 จังหวัด ตามที่ กรมการค้าต่างประเทศ เปิดประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภค เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแล การดำเนินการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐเพื่อการบริโภคเป็นการทั่วไปและการระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมซึ่งมี นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เป็นประธานกรรมการ และผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อคส.และผู้แทนจากหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม ก่อนลงนามในสัญญา

สำหรับคลังสินค้าที่ปลายทางจะต้องติดตั้งกล้องCCTVและต้องรายงานข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าว อีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่ หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำข้าวสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม

และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย ในการกำหนดขั้นตอนและมาตรการการควบคุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว