หอการค้า5ภาคชงแผนปั้นจีดีพีปีหน้า

12 พ.ย. 2560 | 10:20 น.
ประชุมหอการค้าทั่วประเทศคึก หอการค้า 5 ภาค เตรียมชงโปรเจ็กต์ปั่นตัวเลขจีดีพีปี 61 โต ประสานเสียงมั่นใจดีกว่าปีนี้แน่ ชูภาคการค้า ท่องเที่ยวบริการเป็นพระเอก ขณะภาคเกษตรยังต้องลุ้นหลังราคายังแกว่ง ภาคใต้เตรียมชงรัฐปูพรม 5 แสนล้านใน 5 ปีบูมเศรษฐกิจ 14 จังหวัดใต้ระลอกใหม่

การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 35 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2560 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีก 1 เวทีใหญ่ที่จะมีหอการค้า ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเข้าร่วมกว่า 800 คนสำหรับการสัมมนาครั้งนี้ใช้หัวข้อหลักว่า “Executive Trade Service 4.0 : เติบโต ทั่วถึง แบบไทยเท่ (ThaiTay with Inclusive Growth)”

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การประชุมหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้เป้าหมายหลักเพื่อติดตามความคืบหน้าแผนงานและยุทธศาสตร์ในแต่ละสายงานของสมาชิกหอการไทยทั่วประเทศในรอบปี 2560 ปัญหาและอุปสรรคที่พบ รวมถึงข้อเสนอแผนงานจากเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ 3 กลุ่มที่จะผลักดันเพิ่มเติมในปี 2561 หรือในอนาคต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีเป้าหมายเศรษฐกิจไทยปี 2560 โต 3.8% น่าจะทำได้ เพราะ ภาคส่งออกและท่องเที่ยวขยายตัวดี งบประมาณของรัฐปี 2561 ก็กำลังออกมา ส่วนปี 2561 ดูจากเศรษฐกิจภาพรวมน่าจะขยายตัวดีขึ้น ยังไม่มีปัจจัยเลวร้ายอะไรมาก เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวดีขึ้นกว่าปีนี้

ด้านไฮไลต์การเตรียมนำเสนอความคืบหน้า Winning Project หรือโครงการต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมใน 2-3 ปี ครอบคลุม 3 ยุทธศาสตร์ ทั้งด้านการค้า การลงทุนและการค้าชายแดน, ด้านเกษตรและอาหาร และด้านท่องเที่ยวและบริการ ของ 5 ภาคที่จะนำเสนอในครั้งนี้นั้น

บาร์ไลน์ฐาน นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ เผยว่า Winning Project ของภาคเหนือที่เคยเสนอไว้ในการทำเวิร์กช็อปของหอการค้าไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 มีทั้งหมด 142 โครงการ ที่มีความคืบหน้าแล้ว เช่น การจัดทำ QR Code ระบบตรวจสอบย้อนกลับผลไม้ภาคเหนือที่เริ่มดำเนินการแล้วที่พิจิตรและนครสวรรค์,โครงการ Sport Tourism จะมีการจัดงานสี่แควมาราธอนที่พิจิตร พะเยา ลำปาง นครสวรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีหน้า สำหรับจีดีพีภาคเหนือคิดเป็นสัดส่วน 8% ของจีดีพีประเทศ รายได้หลักยังมาจากภาคเกษตร ซึ่งปีนี้ราคาพืชผลไม่ดีนัก รองลงมาคือภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และการค้าชายแดน ซึ่งโปรเจ็กต์ต่างๆหากผลักดันได้สำเร็จจะช่วยเพิ่มจีดีพีของภาคได้ดีขึ้นในปีหน้า

นายประพันธ์ เตชะสกลกิจกูร ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) กล่าวว่า Winning Project ของภาคอีสานที่เคยเสนอไว้มี 28 โครงการ ในครั้งนี้จะประมวลนำเสนอความคืบหน้า เช่นโครงการส่งเสริมท่องเที่ยวริมโขง 7 จังหวัด โครงการสร้างมูลค่าเพิ่ม สินค้าข้าว เป็นต้น และอาจมีโครงการใหม่ๆ ที่จะนำเสนอเพิ่มเติม

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวว่า Winning Project ของภาคตะวันออกมี 9 โครงการ ที่อยู่ระหว่าง ดำเนินการ เช่น โครงการกระจายความเจริญของอีอีซีสู่การท่องเที่ยวจากมีการขยายสนามบินอู่ตะเภาโดยจะดำเนินการกระจายนักท่องเที่ยวและรายได้ไปยังจังหวัดรอบๆ โครงการจันทบุรีมหานครผลไม้เมืองร้อนของโลก เป็นต้น

วิทยุพลังงาน-6-503x73 “จีดีพีภาคตะวันออกมีสัดส่วนประมาณ 25% หรือ 1 ใน 4 ของจีดีพีประเทศ รายได้หลักจากภาคการส่งออก เกษตรและท่องเที่ยว หาก พ.ร.บ.อีอีซีคลอด คาดเศรษฐกิจในพื้นที่จะดีกว่าปีนี้จากการลงทุนเพิ่ม”

ขณะที่นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ เผยว่า Winning Project ของภาคใต้มี 16 โครงการ ที่จะได้นำเสนอความคืบหน้าและในครั้งนี้ยังได้เตรียมนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ 14 จังหวัดในช่วง 5 ปีนับจากนี้ไป โดยจะขอให้ภาครัฐเร่งรัดการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมารัฐมีแผนงานแล้วแต่ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังมาเป็น 10 ปีแล้ว โดยจะเสนอ ขอสนับสนุนงบดำเนินการ 5 แสนล้านบาทใน 5 ปี หรือเฉลี่ย ปีละ 1 แสนล้านบาทเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคใต้ระลอกใหม่

ขณะที่ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการ พัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง กล่าวว่า Winning Project ของภาคกลางที่เสนอไว้มี 6 โครงการ จะได้สรุปและรายงานความคืบหน้าในครั้งนี้ สำหรับภาคกลางมีรายได้หลักจากเกษตร และภาคส่งออก ซึ่งในภาพรวมภาคเกษตรยังไม่ดีนัก แต่หวังปีหน้าจะดีขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-11