พาณิชย์เข้มบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ รับเลียนแบบต่างประเทศเน้นโทษปรับแทนโทษอาญามากขึ้น ขู่โทษสูงปรับหลักร้อยล้าน ยํ้ากว่า 10 คดีเดิมยังเดินหน้าตามกฎหมายเก่า แต่โทษใช้กฎหมายฉบับใหม่ ไม่มีหมดอายุความ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) แข่งขันทางการค้าครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อวางแนวทางกรอบการทำงาน ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายแข่ง
ขันทางการค้า ให้มีความต่อเนื่องในช่วงรอยต่อที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ฉบับใหม่ เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2560 นั้น หากผู้ประกอบการกระทำ
การใดที่ขัดกับ พ.ร.บ.ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ก็จะมีบทลงโทษรุนแรง ส่วนคดีความที่ผ่านมาแล้วก็ให้ดำเนินตามขั้นตอนปกติไม่มีการชะลอ โดยฐานความผิดจะยังอิงกฎหมายเก่าแต่บทลงโทษจะอิงกฎหมายใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนโทษจากโทษอาญาเป็นโทษปรับทางปกครองมากขึ้น
[caption id="attachment_229751" align="aligncenter" width="503"]
บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร[/caption]
“กฎหมายเดิมมีบทกำหนดโทษจำคุก แต่ในต่างประเทศไม่ค่อยมีโทษจำคุกเพราะเขาถือว่าเป็นโทษอาญา ดังนั้นกฎหมายใหม่ที่ออกมาจึงเป็นโทษปรับ
แทนโทษจำคุก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโทษจำคุก ซึ่งอาจจะปรับลดจากโทษจำคุกเช่นจาก 7 ปี เหลือ 4 ปี แต่ไปเพิ่มโทษปรับมากขึ้น เช่นอาจจะปรับเป็นหลักร้อยล้านบาทตามฐานความผิด ดังนั้นกฎหมายใหม่จะเอาจริงกับผู้ที่เอาเปรียบทางการแข่งขันมากขึ้น”
ทั้งนี้การเพิ่มบทลงโทษจากเดิมจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท เป็นจำคุกเหลือ 2 ปี และปรับตามสัดส่วนรายได้ในปีที่กระทำผิดแต่ไม่เกิน 10% ส่วนพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนไม่มาแจ้งผลการรวม
ธุรกิจจะต้องชำระ
ค่าปรับทางปกครองไม่เกิน 2 แสนบาทและปรับรายวันไม่เกิน 1 หมื่นบาทต่อวัน การปรับปรุงกฎหมายฉบับใหม่ถือเป็นการปรับปรุงทั้งบทบัญญัติและกระบวนการกำกับดูแลด้านการแข่งขันให้เป็นไปตามหลักสากล
ส่วนความคืบหน้าการ
ตั้งสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้านั้น อยู่ระหว่างการขออนุมัติงบจากสำนักงบประมาณเข้าไปใหม่ เพราะเดิมกรมได้ทำเรื่องของบประมาณไปล่วงหน้าแล้ว แต่สำนักงบฯแจ้งว่ารอให้กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ก่อน ดังนั้นจึงต้องทำเรื่องของบประมาณไปใหม่จำนวน 350 ล้านบาท โดยจะตั้งสำนักงานบริเวณสถาบัน
วิจัยทีโอที พื้นที่ 1,700 ตารางเมตร ซึ่งงบประมาณดังกล่าว
จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนเรื่องบุคลากรนั้นอยู่ในบทเฉพาะ กาลต้องสรรหาบุคลากรมา
ทำงานในระยะเวลา 60 วัน ซึ่งในช่วงสรรหานี้ได้โอนข้าราชการบางส่วนไปช่วยทำงานแล้ว หลังจากนั้นหากใครสมัครใจทำงานที่สำนักงานใหม่ สามารถทำเรื่องโอนย้ายได้ ส่วนจะมีการประชุมบอร์ดแข่งขันทางการค้าครั้งที่ 2 เมื่อใดนั้นยังไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ดีในส่วนของเรื่องร้องเรียนการเอาเปรียบทางการค้าที่ยังไม่ได้ข้อยุติตั้งแต่ปี 2543-2559 ซึ่งมีประมาณ 10 เรื่อง เช่น ปี 2554 การแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของห้างค้า
ส่ง ค้าปลีก กรณีส่งเสริมการขาย โดยใช้คูปองของห้างค้าส่งค้าปลีกเอาเปรียบรายอื่น, พฤติกรรมการแข่งขันทาง
การค้าที่ไม่เป็นธรรมกรณีโฆษณาบัตรสมาชิกห้างค้าส่งค้าปลีก ปี 2556 เรื่องผู้มีอำนาจเหนือตลาดสินค้ายางพารา แอสฟัลต์ อิมัลชัน ปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม, การค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจเครื่องจักรปรับปรุงคุณภาพเกษตร ปี 2557 กรณีการปรับขึ้นค่า Terminal handing change (THC)
และการลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับราคานํ้ามัน, กรณีปัญหาสายเรือปรับขึ้นค่า THC ปี 2558 การตกลงร่วมกันในธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ ปี 2559 ผู้ผลิตบล็อกแก้วชนิดใสรายเดียวในประเทศไทยกำหนดเงื่อนไขทางด้านราคาและการตลาดอย่างไม่เป็นธรรม และเรื่องการปฏิบัติการค้าไม่เป็นธรรมในธุรกิจนํ้าแข็ง จ.อำนาจเจริญ เป็นต้น ทั้งนี้ข้อร้องเรียนดังกล่าวยังคงดำเนินตามขั้นต่อไปไม่มีชะลอ และไม่มีหมดอายุความ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560