ราคาน้ำมันดิบปรับตัวต่อ หลังสหรัฐฯผลิตน้ำมันดิบเพิ่มและจีนนำเข้า

09 พ.ย. 2560 | 03:24 น.
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวต่อหลังสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มและจีนนำเข้าน้ำมันดิบลดลง

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มแตะระดับ 9.62 ล้านบาร์เรลต่อวันมากสุดในรอบตั้งแต่ปี 2526 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ 3 พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล

- ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจีนในเดือน ต.ค. ปรับลดลงจาก 9 ล้านบาร์เรลในเดิอน ก.ย.แตะระดับ 7.3 ล้านบาร์เรลต่อวันต่ำสุดในรอบ 13 เดือนเนื่องจากโควต้าการนำเข้าน้ำมันดิบของโรงกลั่นเอกชนหลายแห่งใกล้ครบปริมาณที่กำหนดไว้ โดยรัฐบาลคาดโควต้าการนำเข้าน้ำมันดิบของโรงกลั่นเอกชนในปี 2561 จะมากกว่าปี 2560 กว่าร้อยละ 55

วิทยุพลังงาน + ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มขึ้นหลังซาอุดิอาระเบียกล่าวหาเลบานอนต่อการเพิกเฉยในการกวาดล้างกลุ่มฮิสบอลลาห์ (Hezbollah) ซึ่งถูกหนุนหลังโดยอิหร่าน ว่าเป็นการก่อกบฏ และการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาของนายซาอัด อัล-ฮารีรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบีย โดยการกล่าวโทษอิหร่านและกลุ่มฮิสบอลลาห์ นับเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งให้ยิ่งทวีเพิ่มขึ้น

+ กลุ่มโอเปกคาดความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลงและยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) จะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบหยุดเติบโตในช่วงกลางปี 2573 อย่างไรก็ตาม OPEC คาดส่วนแบ่งทางการตลาดจะเติบโตจากร้อยละ 40 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 46 ในปี 2583

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันอย่างต่อเนื่องของปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นน้ำมันปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อกักตุนสินค้าตามฤดูกาลภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุงในช่วงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดน้ำมันดีเซลยังคงถูกกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศไต้หวัน ขณะที่อุปสงค์ยังคงทรงตัวและไม่สามารถรองรับอุปทานได้

9-11-2560-10-19-45.-02 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

10359794_s-9 ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาท่าทีของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะขยายระยะเวลาของข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตที่ราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปเท่าไหร่ ในการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยซาอุดิอาระเบียยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องเพื่อลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD oil stocks) ให้กลับมาสู่ระดับปกติที่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของรัสเซียที่สนับสนุนให้กลุ่มผู้ผลิตขยายระยะเวลาของข้อตกลงออกไปเพื่อทำการปรับลดอุปทานน้ำมันส่วนเกินในตลาด

การส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบโลกค่อนข้างมาก รวมถึงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันและคาดจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องที่มากกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ โปรโมทแทรกอีบุ๊ก