จนถึงวันนี้นักลงทุนที่สนใจร่วมลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีจะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะรัฐบาลจะนำร่างกฎหมายอีอีซี เข้าสู่การพิจารณาต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วถึง 2 ครั้งโดยหนึ่งในประเด็นที่หลายคนจับตามองคือร่างระเบียบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือพีพีพี ที่คาดว่าเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กระบวนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่ากว่า 4แสนล้านบาทจะเริ่มต้นทันที ทั้งท่าเรือนํ้าลึกสนามบินอู่ตะเภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟความเร็วสูงตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนในพื้นที่
จังหวัดฉะเชิงเทราคือหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของอีอีซี ที่ได้รับประโยชน์ในด้านของการเดินทางอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟที่จะเปลี่ยนชีวิตคนฉะเชิงเทราให้ง่ายขึ้น ด้วยขบวนรถไฟความเร็วสูงหนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ที่จะลงทุนภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ที่ใช้ความเร็วได้ถึง250กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การเดินทางสู่แปดริ้ว ที่ได้รับการวางตำแหน่งให้เป็นเมืองใหม่ของที่พักอาศัยจะใช้เวลาเดินทางไม่ถึง30นาที จากเมืองผ่าน กำลังจะกลายเป็นเมืองแห่งที่อยู่อาศัยส่งผลให้การแข่งขันของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เริ่มส่งสัญญาณความเข้มข้นในการช่วงชิงลูกค้าทำให้ราคาที่ดินขยับสูงขึ้น รองรับกลุ่มลูกค้าที่จะมีมากขึ้นตามการเคลื่อนย้ายแรงงานรับอีอีซี
อนาคตของจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่ได้มีเพียงแค่การเป็นชุมชนใหม่ แต่ยังจะเป็นชุมทางของสินค้า หรือ ICD แห่งใหม่ จากความลงตัวของพื้นที่ และเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อกับภูมิภาค และกำลังได้รับการพัฒนารองรับขีดความสามารถด้านการขนส่งนับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนที่จะส่งต่อไปยังคนในพื้นที่ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามการเติบโตที่เกิดจากอีอีซี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
