‘ลาซาล-สำโรง’ฮอต เซียนประเมินคอนโดฯแห่ผุดเบียดอพาร์ตเมนต์
ตลาดคอนโดฯโซนลาซาล-แบริ่ง-สำโรง แข่งเดือดพร้อมส่งสัญญาณโตต่อเนื่อง เล็งเบียดตลาดอพาร์ตเมนต์ กลุ่มออริจิ้นยังครองแชมป์รายใหญ่ในพื้นที่ เตรียมเปิดโครงการใหม่ปีหน้าต่อเนื่อง เซียนประเมินที่ดินชี้ปีหน้าปัจจัยบวกมีเพียบ ทั้งทยอยเปิดบริการรถไฟฟ้าสีเขียวและตอกหมุดก่อสร้างสายสีเหลือง คาดราคาที่ดินปรับเพิ่มตามกระแส
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นพร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในโซนพื้นที่ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง หลังรถไฟฟ้าบีทีเอส ขยายการให้บริการถึงสถานีสำโรง พบว่าราคาขายในพื้นที่โดยภาพรวมยังไม่ขยับ แต่โปรโมชันจะมีมาก กว่า โดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นกลุ่มที่มีที่ดินและโครงการอสังหา ริมทรัพย์ในพื้นที่หลายแปลง โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) มีมากถึง 5 โครงการทั้งที่อยู่อาศัยแล้วและกำลังเปิดการขายในขณะนี้
[caption id="attachment_201250" align="aligncenter" width="335"]
วสันต์ คงจันทร์[/caption]
โซนนี้มีจุดเด่นทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีเหลืองผ่านเข้าไปในพื้นที่ สำหรับสายสีเหลืองนั้นยังเชื่อว่า จะมีผลกระตุ้นในโซนถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์มากกว่าโซนสำโรงที่สายสีเขียวดูเหมือนจะโดดเด่นเนื่องจากเข้าสู่ใจกลางเมืองโดยตรง อีกทั้งปัจจุบันสายสีเขียวอยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายจึงสร้างอานิสงส์ได้มากกว่า
โดยราคาขายคอนโดมิเนียมที่จะเปิดขายในปีหน้าคงจะมีการปรับราคาขึ้นตามไปแน่ๆ เพราะสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น ที่ดินราคาแพงขึ้น ดอกเบี้ยมีแววจะปรับเพิ่ม กระแสการเลือกตั้งและการเฉลิมฉลองเช่นเดียวกับการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองล้วนเป็นปัจจัยบวกได้ทั้งสิ้น ขณะนี้ราคาที่ดินยังไม่มีการปรับเพราะคนซื้อมีน้อย จึงพบว่ามีที่ดินแปลงใหญ่ในย่านดังกล่าวอีกหลายแปลงรอการพัฒนา การพัฒนา จึงไม่กระจุกแต่จะกระจายออกไปสู่พื้นที่ต่างๆมากขึ้นเกาะแนวรถไฟฟ้า ยังเชื่อว่าโซนแบริ่ง-สำโรงมีปริมาณความต้องการต่อเนื่องเนื่องจากเข้าสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็วกว่า กลุ่มผู้ซื้อยังเป็นคนในโซนสุขุมวิทที่มีกำลังซื้อในโซนสุขุมวิทไม่ไหวก็จะไปเลือกในโซนอ่อนนุช-ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง
ประการสำคัญปัจจุบันโซนบางนาพบว่ามีการเตรียมขยายพื้นที่มากขึ้นทั้งโครงการบางกอกมอลล์ของกลุ่มเดอะมอลล์ หรือการขยายธุรกิจของศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ส่งผลให้ความต้องการมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จับตาเอกชนผุดโครงการสร้างแหล่งงานเพิ่มในพื้นที่โดย 3 โครงการหลักทั้งขยายไบเทค สร้างบางกอกมอลล์ และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 จะมีส่วนกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่บางนา-สำโรงได้ไม่มากก็น้อย นอกจากนั้นยังไม่ควรมองข้ามแนวโน้มการเติบโตด้านวงการโลจิสติกส์ในโซนสมุทรปราการที่จะส่งผลบวกได้อีกด้วย
“เมื่อปลายปีที่ผ่านมาพบว่ายอดขายแถบปริมณฑลหดหายกันเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ละประมาณ 20-30% แต่โซนสมุทรปราการกลับไม่กระทบมากนัก ดังนั้นหาก บีทีเอสทยอยเปิดให้บริการต่อเนื่องจากสำโรงก็จะเป็นปัจจัยบวกตามมาอีก ทั้งนี้ก็ควรระวังเรื่องดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้นอาจจะกระทบด้านสินเชื่อด้วยเช่นกัน เพราะตลาดที่อยู่อาศัยดังกล่าวยังถือว่าเป็นตลาดระดับล่างแตกต่างกับโซนสุขุมวิท”
ทั้งนี้ โซนสำโรงจัดว่ามีตลาดคอนโดมิเนียม 2 ประเภท คืออาคารสูงสำหรับผู้ที่เบื่ออพาร์ต เม้นต์และอยากไปอยู่อาคารสูง และคอนโดมิเนียมประมาณ 8 ชั้นจะขายให้กับกลุ่มคนวัยทำงานที่จะขายยากมากกว่า จึงยังมีความเสี่ยงตลาดล่างอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นการกู้ไม่ผ่าน ระดับราคาล้านต้นๆ ซึ่งโซนบางปูก็ไม่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ส่วนกลุ่มออริจิ้นเน้นระดับราคา 2-3 ล้านบาท พบว่ายังมีแนวโน้มที่ดีดังนั้นอาคารสูงในย่านนี้จึงเป็นลูกค้ากลุ่มมีรายได้ที่ดีกว่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอาคารพาณิชย์เก่าๆ ที่มีกำลังซื้อดีกว่าตลาดคนวัยทำงาน
ในส่วนปีหน้ายังเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวตามกระแสเศรษฐกิจ ทั้งตลาดระดับล่างและระดับบน ดังนั้นตลาดระดับกลางในโซนบางนา-ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง จึงยังโตต่อเนื่องได้อีก ประการสำคัญธนาคารแห่งประเทศไทยยังส่งสัญญาณปีหน้าว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะดีขึ้น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนจึงเป็นปัจจัยบวกมากกว่าปีนี้นั่นเอง
[caption id="attachment_129985" align="aligncenter" width="335"]
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)[/caption]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าคอนโด มิเนียมในย่านลาซาล แบริ่ง สำโรงมียอดขายสูงกว่า 83% จากคอนโดที่เปิดขาย 6,430 หน่วย ซึ่งเหลือเพียง 1,160 หน่วย เป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี กรณีทำเลนี้ขายดีเพราะเป็นทำเลที่จับต้องได้ราคาไม่สูงมากอยู่ระหว่าง 1.5-3.5 ล้านบาท อีกทั้งทำเลนี้ยังได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสยามหรือทองหล่อ โดยใช้เวลาแค่ 15-25 นาที อีกทั้งในอนาคตส่วนต่อขยายจะเชื่อมไปถึงบางปู ทำให้คนที่ทำงานในย่านนิคมบางปูจะเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ คอนโดมิเนียม ไฮไรส์จะอยู่ระดับราคา 90,000-110,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ เฉลี่ยระดับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร ผลตอบแทนค่าเช่า จะอยู่ระหว่าง 5.5-6.5% ขึ้นอยู่กับโครงการ ส่วนราคาเช่าจะอยู่ระหว่าง 10,000-15,000 บาทต่อเดือน
จากการลงพื้นที่สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในซอยสุขุมวิท 105 สุขุมวิท 107 พบว่ามีป้ายประกาศและสำนักงานขายผุดขึ้นราวดอกเห็ด โดยพบว่าคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นแล้วหลายโครงการ อาทิ ซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) ได้แก่ ศุภาลัยซิตี้รีสอร์ต, พีเจแมนชั่น, นอตติ้งฮิลล์ เฟสแรก และที่อยู่ระหว่างประกาศขายหลายโครงการ อาทิ นอตติ้งฮิลล์เฟส 2, โครงการลอฟท์เลนทาวน์โฮม, โครงการอินสปาย ในช่วงออกสู่ถนนศรีนครินทร์ และในซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) โครงการที่เปิดอยู่อาศัยแล้ว ได้แก่ ATTITUDE BEARING, 107 แบริ่ง คอนโดมิเนียม, The Night ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขาย ได้แก่ โครงการพอสไอดี เบื้องต้นนั้นเฉพาะโครงการนอตติ้งฮิลล์เฟสแรก มี 3 อาคารเปิดการขายมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ขณะนี้ขายหมดแล้วโดยเฟสแรกจำนวน 186 ยูนิต เฟส 2 จำนวน 221 ยูนิต คาดว่าจะทยอยโอนได้ในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า โปรโมชันช่วงเปิดโครงการเริ่มต้นที่ 7.9 แสนบาทขนาดห้อง 25 ตารางเมตร ราคาปัจจุบัน 1.49 ล้านบาทราคาสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท และจะมีการปรับตามภาวะเศรษฐกิจและความก้าวหน้าแต่ละโครงการ โดยในปี 2561 จะเปิดเฟส 3 โซนติดถนนด้านหน้าโครงการแต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาเริ่มต้นซึ่งลูกค้ามีทั้งการซื้อเพื่อนำไปลงทุนปล่อยเช่าและเพื่ออยู่อาศัยเอง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นพร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในโซนพื้นที่ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง หลังรถไฟฟ้าบีทีเอส ขยายการให้บริการถึงสถานีสำโรง พบว่าราคาขายในพื้นที่โดยภาพรวมยังไม่ขยับ แต่โปรโมชันจะมีมาก กว่า โดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นกลุ่มที่มีที่ดินและโครงการอสังหา ริมทรัพย์ในพื้นที่หลายแปลง โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) มีมากถึง 5 โครงการทั้งที่อยู่อาศัยแล้วและกำลังเปิดการขายในขณะนี้
[caption id="attachment_201250" align="aligncenter" width="335"]
โซนนี้มีจุดเด่นทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีเหลืองผ่านเข้าไปในพื้นที่ สำหรับสายสีเหลืองนั้นยังเชื่อว่า จะมีผลกระตุ้นในโซนถนนลาดพร้าว ศรีนครินทร์มากกว่าโซนสำโรงที่สายสีเขียวดูเหมือนจะโดดเด่นเนื่องจากเข้าสู่ใจกลางเมืองโดยตรง อีกทั้งปัจจุบันสายสีเขียวอยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายจึงสร้างอานิสงส์ได้มากกว่า
โดยราคาขายคอนโดมิเนียมที่จะเปิดขายในปีหน้าคงจะมีการปรับราคาขึ้นตามไปแน่ๆ เพราะสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น ที่ดินราคาแพงขึ้น ดอกเบี้ยมีแววจะปรับเพิ่ม กระแสการเลือกตั้งและการเฉลิมฉลองเช่นเดียวกับการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองล้วนเป็นปัจจัยบวกได้ทั้งสิ้น ขณะนี้ราคาที่ดินยังไม่มีการปรับเพราะคนซื้อมีน้อย จึงพบว่ามีที่ดินแปลงใหญ่ในย่านดังกล่าวอีกหลายแปลงรอการพัฒนา การพัฒนา จึงไม่กระจุกแต่จะกระจายออกไปสู่พื้นที่ต่างๆมากขึ้นเกาะแนวรถไฟฟ้า ยังเชื่อว่าโซนแบริ่ง-สำโรงมีปริมาณความต้องการต่อเนื่องเนื่องจากเข้าสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็วกว่า กลุ่มผู้ซื้อยังเป็นคนในโซนสุขุมวิทที่มีกำลังซื้อในโซนสุขุมวิทไม่ไหวก็จะไปเลือกในโซนอ่อนนุช-ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง
“เมื่อปลายปีที่ผ่านมาพบว่ายอดขายแถบปริมณฑลหดหายกันเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ละประมาณ 20-30% แต่โซนสมุทรปราการกลับไม่กระทบมากนัก ดังนั้นหาก บีทีเอสทยอยเปิดให้บริการต่อเนื่องจากสำโรงก็จะเป็นปัจจัยบวกตามมาอีก ทั้งนี้ก็ควรระวังเรื่องดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้นอาจจะกระทบด้านสินเชื่อด้วยเช่นกัน เพราะตลาดที่อยู่อาศัยดังกล่าวยังถือว่าเป็นตลาดระดับล่างแตกต่างกับโซนสุขุมวิท”
ทั้งนี้ โซนสำโรงจัดว่ามีตลาดคอนโดมิเนียม 2 ประเภท คืออาคารสูงสำหรับผู้ที่เบื่ออพาร์ต เม้นต์และอยากไปอยู่อาคารสูง และคอนโดมิเนียมประมาณ 8 ชั้นจะขายให้กับกลุ่มคนวัยทำงานที่จะขายยากมากกว่า จึงยังมีความเสี่ยงตลาดล่างอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นการกู้ไม่ผ่าน ระดับราคาล้านต้นๆ ซึ่งโซนบางปูก็ไม่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ส่วนกลุ่มออริจิ้นเน้นระดับราคา 2-3 ล้านบาท พบว่ายังมีแนวโน้มที่ดีดังนั้นอาคารสูงในย่านนี้จึงเป็นลูกค้ากลุ่มมีรายได้ที่ดีกว่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอาคารพาณิชย์เก่าๆ ที่มีกำลังซื้อดีกว่าตลาดคนวัยทำงาน
ในส่วนปีหน้ายังเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวตามกระแสเศรษฐกิจ ทั้งตลาดระดับล่างและระดับบน ดังนั้นตลาดระดับกลางในโซนบางนา-ลาซาล-แบริ่ง-สำโรง จึงยังโตต่อเนื่องได้อีก ประการสำคัญธนาคารแห่งประเทศไทยยังส่งสัญญาณปีหน้าว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะดีขึ้น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนจึงเป็นปัจจัยบวกมากกว่าปีนี้นั่นเอง
[caption id="attachment_129985" align="aligncenter" width="335"]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าคอนโด มิเนียมในย่านลาซาล แบริ่ง สำโรงมียอดขายสูงกว่า 83% จากคอนโดที่เปิดขาย 6,430 หน่วย ซึ่งเหลือเพียง 1,160 หน่วย เป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี กรณีทำเลนี้ขายดีเพราะเป็นทำเลที่จับต้องได้ราคาไม่สูงมากอยู่ระหว่าง 1.5-3.5 ล้านบาท อีกทั้งทำเลนี้ยังได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างสยามหรือทองหล่อ โดยใช้เวลาแค่ 15-25 นาที อีกทั้งในอนาคตส่วนต่อขยายจะเชื่อมไปถึงบางปู ทำให้คนที่ทำงานในย่านนิคมบางปูจะเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ คอนโดมิเนียม ไฮไรส์จะอยู่ระดับราคา 90,000-110,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ เฉลี่ยระดับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร ผลตอบแทนค่าเช่า จะอยู่ระหว่าง 5.5-6.5% ขึ้นอยู่กับโครงการ ส่วนราคาเช่าจะอยู่ระหว่าง 10,000-15,000 บาทต่อเดือน
จากการลงพื้นที่สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในซอยสุขุมวิท 105 สุขุมวิท 107 พบว่ามีป้ายประกาศและสำนักงานขายผุดขึ้นราวดอกเห็ด โดยพบว่าคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นแล้วหลายโครงการ อาทิ ซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) ได้แก่ ศุภาลัยซิตี้รีสอร์ต, พีเจแมนชั่น, นอตติ้งฮิลล์ เฟสแรก และที่อยู่ระหว่างประกาศขายหลายโครงการ อาทิ นอตติ้งฮิลล์เฟส 2, โครงการลอฟท์เลนทาวน์โฮม, โครงการอินสปาย ในช่วงออกสู่ถนนศรีนครินทร์ และในซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) โครงการที่เปิดอยู่อาศัยแล้ว ได้แก่ ATTITUDE BEARING, 107 แบริ่ง คอนโดมิเนียม, The Night ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขาย ได้แก่ โครงการพอสไอดี เบื้องต้นนั้นเฉพาะโครงการนอตติ้งฮิลล์เฟสแรก มี 3 อาคารเปิดการขายมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ขณะนี้ขายหมดแล้วโดยเฟสแรกจำนวน 186 ยูนิต เฟส 2 จำนวน 221 ยูนิต คาดว่าจะทยอยโอนได้ในช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า โปรโมชันช่วงเปิดโครงการเริ่มต้นที่ 7.9 แสนบาทขนาดห้อง 25 ตารางเมตร ราคาปัจจุบัน 1.49 ล้านบาทราคาสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท และจะมีการปรับตามภาวะเศรษฐกิจและความก้าวหน้าแต่ละโครงการ โดยในปี 2561 จะเปิดเฟส 3 โซนติดถนนด้านหน้าโครงการแต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาเริ่มต้นซึ่งลูกค้ามีทั้งการซื้อเพื่อนำไปลงทุนปล่อยเช่าและเพื่ออยู่อาศัยเอง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
