รวมทีมเป็นหนึ่ง ‘ทาทาสตีล’ สู่องค์กรที่ใช่ในใจพนักงาน
อีกหนึ่งผู้นำที่พาองค์กรฝ่าฟันปัญหา ท่ามกลางปัจจัยลบที่อยู่นอกเหนือการครอบคลุม ก็คือ “ราจีฟ มังกัล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามารับหน้าที่แม่ทัพเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจในเมืองไทยประสบภาวะขาดทุน มีปัญหาต้องคืนเงินกู้ และยังเป็นช่วงรอยต่อของวิกฤติการณ์นํ้าท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่
[caption id="attachment_228773" align="aligncenter" width="335"]
“ราจีฟ มังกัล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]
การเข้ามารับหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดของ ทาทา สตีล ประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกที่ “ราจีฟ” ออกมาทำงานนอกประเทศ หลังจากทำงานกับทาทา กรุ๊ป มา 28 ปี ความท้าทายของการบริหารครั้งนี้ ผู้นำทัพมีเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่า จะต้องเดินหน้าในเรื่องหลักๆ คือ เรื่องของคน ที่มีเป้าในการรวมทีมเป็นหนึ่ง เพื่อนำพาธุรกิจของบริษัทให้พลิกฟื้นมาเป็นกำไรให้ได้ และสิ่งที่ต้องทำควบคู่คือ การรักษาสภาพหนี้ให้ดี จ่ายเงินให้ตรงเวลา ขณะที่บริษัทแม่ก็มีปัญหา เพราะมีการลงทุนในยุโรป จึงไม่สามารถช่วยซัพพอร์ตทาทา สตีล ประเทศไทย ซึ่งมีหนี้เงินกู้ 5 พันล้านบาทได้ แถมในประเทศไทยปัญหาการเมืองทำให้นโยบายต่างๆ ขับเคลื่อนไม่ค่อยได้ และยังมีปัญหาการนำเข้าสินค้าจากจีน ที่ดัมพ์ราคาลงมาเยอะ ช่วงนั้นทาทา สตีล จึงต้องพยายามยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองให้ได้
“ราจีฟ” พูดถึงการฝ่าฟันปัญหาในขณะนั้นว่า ต้องกลับมาดูตัวเอง ที่ต้องทำองค์กรให้แข็งแกร่ง เพราะหากตัวเองไม่แข็งแกร่ง ก็ไปโทษสภาพแวดล้อมข้างนอกไม่ได้ เขาดำเนินแผนธุรกิจด้านหลักๆ คือ การควบคุมต้นทุนต่างๆ ทั้งในแง่ต้นทุนแปรสภาพและต้นทุนคงที่ รวมไปถึงการบริหารเงินสด สร้างกระแสเงินสดในบริษัทให้เพิ่มขึ้น ทั้งเพิ่มยอดขาย การควบคุมสต๊อก บริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในสภาพที่ดี ส่วนประเด็นสินค้าจีน เขาได้เข้าพบภาครัฐ เพื่อชี้แจงปัญหา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญ คือ การบริหารคน ต้องทำให้พนักงานที่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดัน เดินหน้าพร้อมสู้ไปด้วยกัน มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน มีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน ด้วยการสื่อสารข้อมูลที่แท้จริงให้พนักงานรับทราบ ขณะเดียวกัน ก็ยังจ่ายโบนัส ปรับเพิ่มเงินเดือน และไม่เลิกจ้างพนักงาน
จากแนวทางการดำเนินงานในช่วงนั้น ทำให้ทาทาสตีล กลับมามีกำไรภายใน 2 ปี สามารถจ่ายคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ 100% โดยไม่เคยผิดนัดการชำระหนี้
[caption id="attachment_228775" align="aligncenter" width="335"]
“ราจีฟ มังกัล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]
เป้าหมายต่อไปของ “ราจีฟ” คือ การพัฒนาบุคลากร สร้างความผูกพันระหว่างองค์กรและพนักงาน มีการนำบริษัทที่ปรึกษามาช่วยพัฒนาคนในองค์กร ทุกคนในองค์กรต้องสามารถซัพพอร์ตลูกค้าได้ ต้องเป็น CST หรือ Customer Service Team โดยตัว “ราจีฟ” เองลงไปลุย ทำหน้าที่เป็นโค้ช ช่วยซัพพอร์ตทีมงาน ทำให้คนในองค์กรขับเคลื่อนงานของตัวเองไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป้าหมายต่อไปคือ การสร้างให้ทาทา สตีลประเทศไทย เป็นบริษัทของทาทา สตีล กรุ๊ป ที่ดีที่สุดในอาเซียน ที่สร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นองค์กรที่คนอยากเข้ามาทำงานด้วย (Employer of Choice)
“หน้าที่ของผมคือ การทำให้บริษัทเดินไปข้างหน้า ทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างราบรื่น ทำอย่างไรจึงจะดึงศักยภาพสูงสุดของทีมงานออกมาให้ได้ คนไทยดีที่สปีด และคุณภาพการทำงานอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มเติมให้กับทีมงาน คือ การบอกว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องทำอันนี้ วิธีการที่ทำคือ จะลงไปพบพนักงานด้วยตัวเอง ทุกๆ ไตรมาส”
“ราจีฟ” ยังบอกอีกว่า แนวคิดการทำธุรกิจของทาทา กรุ๊ป เชื่อในเรื่องของชุมชนรอบตัวต้องดี ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจที่ไหน ทาทาต้องทำประโยชน์ให้กับที่นั่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน การโปรโมตการรักการอ่าน ซึ่งตั้งเป้ามอบตู้หนังสือ Reading Rabbit ให้กับ 400 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มอบไปแล้ว 265 โรงเรียน และยังติดตามซัพพอร์ตหนังสือใหม่ๆ ให้ปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
[caption id="attachment_228773" align="aligncenter" width="335"]
การเข้ามารับหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดของ ทาทา สตีล ประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกที่ “ราจีฟ” ออกมาทำงานนอกประเทศ หลังจากทำงานกับทาทา กรุ๊ป มา 28 ปี ความท้าทายของการบริหารครั้งนี้ ผู้นำทัพมีเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่า จะต้องเดินหน้าในเรื่องหลักๆ คือ เรื่องของคน ที่มีเป้าในการรวมทีมเป็นหนึ่ง เพื่อนำพาธุรกิจของบริษัทให้พลิกฟื้นมาเป็นกำไรให้ได้ และสิ่งที่ต้องทำควบคู่คือ การรักษาสภาพหนี้ให้ดี จ่ายเงินให้ตรงเวลา ขณะที่บริษัทแม่ก็มีปัญหา เพราะมีการลงทุนในยุโรป จึงไม่สามารถช่วยซัพพอร์ตทาทา สตีล ประเทศไทย ซึ่งมีหนี้เงินกู้ 5 พันล้านบาทได้ แถมในประเทศไทยปัญหาการเมืองทำให้นโยบายต่างๆ ขับเคลื่อนไม่ค่อยได้ และยังมีปัญหาการนำเข้าสินค้าจากจีน ที่ดัมพ์ราคาลงมาเยอะ ช่วงนั้นทาทา สตีล จึงต้องพยายามยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองให้ได้
“ราจีฟ” พูดถึงการฝ่าฟันปัญหาในขณะนั้นว่า ต้องกลับมาดูตัวเอง ที่ต้องทำองค์กรให้แข็งแกร่ง เพราะหากตัวเองไม่แข็งแกร่ง ก็ไปโทษสภาพแวดล้อมข้างนอกไม่ได้ เขาดำเนินแผนธุรกิจด้านหลักๆ คือ การควบคุมต้นทุนต่างๆ ทั้งในแง่ต้นทุนแปรสภาพและต้นทุนคงที่ รวมไปถึงการบริหารเงินสด สร้างกระแสเงินสดในบริษัทให้เพิ่มขึ้น ทั้งเพิ่มยอดขาย การควบคุมสต๊อก บริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในสภาพที่ดี ส่วนประเด็นสินค้าจีน เขาได้เข้าพบภาครัฐ เพื่อชี้แจงปัญหา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญ คือ การบริหารคน ต้องทำให้พนักงานที่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดัน เดินหน้าพร้อมสู้ไปด้วยกัน มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน มีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน ด้วยการสื่อสารข้อมูลที่แท้จริงให้พนักงานรับทราบ ขณะเดียวกัน ก็ยังจ่ายโบนัส ปรับเพิ่มเงินเดือน และไม่เลิกจ้างพนักงาน
จากแนวทางการดำเนินงานในช่วงนั้น ทำให้ทาทาสตีล กลับมามีกำไรภายใน 2 ปี สามารถจ่ายคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ 100% โดยไม่เคยผิดนัดการชำระหนี้
[caption id="attachment_228775" align="aligncenter" width="335"]
เป้าหมายต่อไปของ “ราจีฟ” คือ การพัฒนาบุคลากร สร้างความผูกพันระหว่างองค์กรและพนักงาน มีการนำบริษัทที่ปรึกษามาช่วยพัฒนาคนในองค์กร ทุกคนในองค์กรต้องสามารถซัพพอร์ตลูกค้าได้ ต้องเป็น CST หรือ Customer Service Team โดยตัว “ราจีฟ” เองลงไปลุย ทำหน้าที่เป็นโค้ช ช่วยซัพพอร์ตทีมงาน ทำให้คนในองค์กรขับเคลื่อนงานของตัวเองไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป้าหมายต่อไปคือ การสร้างให้ทาทา สตีลประเทศไทย เป็นบริษัทของทาทา สตีล กรุ๊ป ที่ดีที่สุดในอาเซียน ที่สร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นองค์กรที่คนอยากเข้ามาทำงานด้วย (Employer of Choice)
“หน้าที่ของผมคือ การทำให้บริษัทเดินไปข้างหน้า ทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างราบรื่น ทำอย่างไรจึงจะดึงศักยภาพสูงสุดของทีมงานออกมาให้ได้ คนไทยดีที่สปีด และคุณภาพการทำงานอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มเติมให้กับทีมงาน คือ การบอกว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องทำอันนี้ วิธีการที่ทำคือ จะลงไปพบพนักงานด้วยตัวเอง ทุกๆ ไตรมาส”
“ราจีฟ” ยังบอกอีกว่า แนวคิดการทำธุรกิจของทาทา กรุ๊ป เชื่อในเรื่องของชุมชนรอบตัวต้องดี ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจที่ไหน ทาทาต้องทำประโยชน์ให้กับที่นั่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน การโปรโมตการรักการอ่าน ซึ่งตั้งเป้ามอบตู้หนังสือ Reading Rabbit ให้กับ 400 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มอบไปแล้ว 265 โรงเรียน และยังติดตามซัพพอร์ตหนังสือใหม่ๆ ให้ปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
