เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าเล็กน้อย 33.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาทรัมป์เยือนเอเชียกดดันค่าเงินผันผวน

เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ระดับ 33.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ รับตัวเลข ISM ออกมาดีคาด จับตาทรัมป์เยือนเอเชียกดดันค่าเงินผันผวน พร้อมประเมินตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ-ผลประชุมธนาคารกลางหลักตลอดสัปดาห์

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าขึ้นจาก 33.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการสหรัฐฯ โดย ISM ออกมาดีเกินคาดอยู่ที่ 60.1 เทียบกับที่ตลาดมองที่ 58.5

สำหรับสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจ และการประชุมธนาคารกลางหลักที่น่าสนใจดังนี้ เริ่มจากวันจันทร์ นักวิเคราะห์จะจับตา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของยูโรโซนในเดือนตุลาคม โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.9 จุดต่อ หนุนภาพการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการในยูโรโซน วันอังคาร ตลาดมองว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ต่อ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ อนึ่ง ธนาคารกลางออสเตรเลียมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า อย่างน้อย 1 ครั้ง วันพุธ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ยอดส่งออกและนำเข้าของจีนในเดือนตุลาคม จะยังคงสามารถขยายตัวได้อัตรา 8% และ 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามภาพการค้าโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง และความต้องการในประเทศจีนยังคงเพิ่มขึ้น และในวันศุกร์ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งมีโอกาสเพิ่มขึ้นแตะระดับ 101 หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference board ออกมาแตะจุดสูงสุดในรอบ 17 ปี

มองในสัปดาห์นี้ เงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 33.10-33.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยถ้าหาก ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญยูโรโซน อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ ออกมาดีเกินคาด จะส่งผลให้ ยูโรกลับมาแข็งค่า กดดันค่าเงินดอลลาร์ได้ นอกจากนี้ หากตัวเลขการค้าของจีนยังคงขยายตัวในระดับสูง จะช่วยหนุนให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าตลาดเกิดใหม่และเอเชียส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนจะต้องระมัดระวัง ความผันผวนของค่าเงินที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเดินทางไปยังเอเชียของประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับวันนี้ มองค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 33.15-33.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ