ออริจิ้นลุยEEC ปั้น2หมื่นล้าน
ออริจิ้นฯ รุกลงทุนอสังหาฯ ครบวงจร มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท รับอีอีซี ผุดคอนโดมิเนียม โรงแรม คอมมิวนิตีมอลล์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับ
เคลื่อนประเทศ โดยรัฐจะเดินหน้าลงทุน 5 ปีแรกกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อยกระดับพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ให้กลายเป็น “World-Class Economic Zone” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ด้วย
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นบริษัทต้นแบบ เข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่อย่างจริงจังเป็นรายแรกๆ และในอนาคตศรีราชา จะเป็นมหานคร เพราะวันนี้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.และคาดจะเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายสนธิรัตน์กล่าวและยํ้าว่า ระยะยาวคาดว่าการลงทุนใน EEC จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยราว 5% ต่อปี สร้างการจ้างงาน 1 แสนอัตราต่อปี สร้างฐานภาษีใหม่ไม่ตํ่ากว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนต่อ ปี และสร้างฐานรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่า 4.5 แสนล้านบาทต่อปี
[caption id="attachment_227830" align="aligncenter" width="503"]
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ OR[/caption]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ EEC รวมมูลค่าโครงการกว่า 12,130 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่า 10,130 ล้านบาท และในจังหวัดระยองประมาณ 2,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีหลังฟังนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 8,000 ล้านบาท ในพื้นที่อีอีซี
สำหรับโครงการศรีราชา เริ่มพัฒนาโครงการแล้ว 2 โครงการได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” มูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย คอน โดมิเนียมเคนซิงตัน แหลมฉบัง 1 เคนซิงตัน แหลมฉบัง 2 และนอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์และคอมมิวนิตีมอลล์ “พอร์โทเบลโล มอลล์” 2.โครงการคอนโดมิเนียม “ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา” มูลค่า 2,500 ล้านบาท อยู่ระหว่างการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ มียอดขายแล้วกว่า 70% ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อให้คนญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมเช่า ซึ่งขณะนี้มีอัตราค่าเช่าสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
“ปัจจุบัน ศรีราชาถือเป็นทำเลที่โดดเด่นที่สุด มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถูกขนานนามว่าเป็นลิตเติล โอซากา ในอนาคตหากลงทุนโครงการดิจิตอล พาร์ก ไทยแลนด์ในศรีราชา มีสัญญาณที่ดีว่าจะมีนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้ามาเพิ่มขึ้น”
สำหรับโครงการที่จังหวัดระยอง บริษัทยังมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในปี 2561 และบริษัทยังมองหาที่ดินแปลงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนและส่งเสริมการดำเนินนโยบายของภาครัฐ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับ
เคลื่อนประเทศ โดยรัฐจะเดินหน้าลงทุน 5 ปีแรกกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อยกระดับพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ให้กลายเป็น “World-Class Economic Zone” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ด้วย
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นบริษัทต้นแบบ เข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่อย่างจริงจังเป็นรายแรกๆ และในอนาคตศรีราชา จะเป็นมหานคร เพราะวันนี้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.และคาดจะเติบโตอย่างรวดเร็ว” นายสนธิรัตน์กล่าวและยํ้าว่า ระยะยาวคาดว่าการลงทุนใน EEC จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยราว 5% ต่อปี สร้างการจ้างงาน 1 แสนอัตราต่อปี สร้างฐานภาษีใหม่ไม่ตํ่ากว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนต่อ ปี และสร้างฐานรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่า 4.5 แสนล้านบาทต่อปี
[caption id="attachment_227830" align="aligncenter" width="503"]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ EEC รวมมูลค่าโครงการกว่า 12,130 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่า 10,130 ล้านบาท และในจังหวัดระยองประมาณ 2,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีหลังฟังนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมอีก 8,000 ล้านบาท ในพื้นที่อีอีซี
สำหรับโครงการศรีราชา เริ่มพัฒนาโครงการแล้ว 2 โครงการได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” มูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย คอน โดมิเนียมเคนซิงตัน แหลมฉบัง 1 เคนซิงตัน แหลมฉบัง 2 และนอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์และคอมมิวนิตีมอลล์ “พอร์โทเบลโล มอลล์” 2.โครงการคอนโดมิเนียม “ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา” มูลค่า 2,500 ล้านบาท อยู่ระหว่างการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ มียอดขายแล้วกว่า 70% ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อให้คนญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมเช่า ซึ่งขณะนี้มีอัตราค่าเช่าสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
“ปัจจุบัน ศรีราชาถือเป็นทำเลที่โดดเด่นที่สุด มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถูกขนานนามว่าเป็นลิตเติล โอซากา ในอนาคตหากลงทุนโครงการดิจิตอล พาร์ก ไทยแลนด์ในศรีราชา มีสัญญาณที่ดีว่าจะมีนักลงทุนชาวญี่ปุ่นเข้ามาเพิ่มขึ้น”
สำหรับโครงการที่จังหวัดระยอง บริษัทยังมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในปี 2561 และบริษัทยังมองหาที่ดินแปลงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนและส่งเสริมการดำเนินนโยบายของภาครัฐ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
