ตั้ง2กองทุนหนุนธุรกิจดิจิตอล ดีป้าเทงบ120ล้านปั้นผู้ประกอบการเริ่มตั้งตัว-ขยายตปท.

09 พ.ย. 2560 | 07:56 น.
ดีป้ากางแผนหนุน “ดิจิตอลคอนเทนต์-ดิจิตอล สตาร์ตอัพ” ทุ่ม 120 ล้าน ตั้ง 2 กองทุน ช่วยเริ่มต้นธุรกิจ ถึงขยายตลาดต่างประเทศ คาดผลตอบแทนลงทุน 5 เท่า พร้อมวางเป้าหมายดันผู้ประกอบการซอฟต์แวร์-ดิจิตอลคอนเทนต์ไทยขึ้นทะเบียนไอพี ทั้งในและต่างประเทศ

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่าปีงบประมาณ 2561 ดีป้าได้ปรับแผนส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ใหม่ โดยมีเป้าหมายการผลักดันผู้ประกอบการดิจิตอลคอนเทนต์ของไทย ให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเองขึ้นมา แล้วนำไปจดทะเบียนคุ้ม ครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากเดิมผู้ประกอบการของไทยส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับจ้างผลิต

[caption id="attachment_227730" align="aligncenter" width="503"] ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า[/caption]

โดยล่าสุดได้จัดตั้งโครงการกองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการขึ้นมา 2 โครงการ ซึ่งโครงการแรกอยู่ภายใต้ชื่อ กองทุน อินเตอร์เนชั่นแนล ไลเซชั่น มีวงเงินสนับ สนุน 20 ล้านบาท โดยดีป้านำเม็ดเงินจากงบประมาณปี 2560 ที่เหลืออยู่มาจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเพื่อสนับสนุนกับผู้ประกอบการดิจิตอลคอนเทนต์ในการไปเจรจาธุรกิจกับต่างประเทศ โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเสนอแผนงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560-กุมภาพันธ์ 2561 ส่วนวงเงินให้การสนับสนุนไม่เกิน 200,000 บาท โดยเงื่อนไขผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องสำรองจ่ายก่อนแล้วนำมาเบิกจากดีป้าทีหลัง ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถให้การสนับสนุนกับผู้ประกอบการได้ประมาณ 100 ราย และคาดว่ามูลค่าการเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีมูลค่าราว 3-5 ล้านบาท

ส่ำหรับกองทุนที่ 2 มีมูลค่าราว 100 ล้านบาท โดยเป็นงบเบิกจ่ายแทน ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี จัดสรรให้ดีป้า ให้การสนับสนุนกับกลุ่มสตาร์ตอัพ ภายใต้ชื่อโครงการสตาร์ทอัพดิจิตอลโปรแกรม ประกอบด้วย 4 โครงการย่อย คือ 1.โครงการเริ่มต้นธุรกิจ ที่เปิดให้ผู้ประกอบการนำเสนอแผนธุรกิจเข้ามาให้พิจารณา โดยโครงการดังกล่าวมีวงเงินสนับสนุน 20 ล้านบาท ซึ่งจะให้สนับสนุนผู้ประกอบการเริ่มต้นเขียนแผนธุรกิจรายละไม่เกิน 50,000 บาท คาดว่าจะให้การสนับสนุนผู้ประกอบ การได้ราว 200 ราย

2.โครงการกองทุนจับคู่ทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการจัดตั้งเป็นบริษัทขึ้นมา โดยภาครัฐจะให้การสนับสนุน 70% ส่วนที่เหลือ 30% จะต้องเป็นเงินลงทุนของผู้ประกอบการ วงเงินสนับสนุนทั้งหมด 20 ล้านบาท โดยให้การสนับสนุนรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท และ 3.กองทุนอินเว้นท์ เม้นต์ฟันด์ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศ โดยวางเป้าหมายให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพขึ้นเป็น ต้นแบบ 5 ราย ซึ่งวงเงินสนับสนุนรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1-14 สุดท้ายเป็นโครงการให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ท่องเที่ยว และอาหาร ในการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิตอล หรือนำเทคโนโลยีมาใช้ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต วิเคราะห์ธุรกิจ โดยดีป้าจะดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการที่เหมาะสมให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และจะให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านที่ปรึกษาในการปรับสู่ดิจิตอล โดยโครงการดังกล่าวมีวงเงินสนับสนุน 35 ล้านบาท

นายณัฐพล กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับตัวเลขการสำรวจอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ของไทยล่าสุดที่ดีป้าร่วมมือกับบริษัทไอดีซี (ประเทศไทย) จำกัด ทำการสำรวจ พบว่ามีการเติบโตในทิศทางเพิ่มสูงขึ้น โดยอุตสาหกรรมเกมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังอยู่ในกระแสความนิยม โดยในปี 2559 มีการนำเข้าและสร้างแอนิเมชันและเกมจำนวนมากทำให้มูลค่ารวมของปี 2559 อยู่ที่ 21,981 ล้านบาทแบ่งเป็นมูลค่า ของอุตสาหกรรมแอนิเมชัน 3,965 ล้านบาท อุตสาหกรรมคาแรกเตอร์ 1,687 ล้านบาท อุตสาหกรรมเกม 16,328 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมและดิจิตอลคอนเทนต์ของประเทศไทย ในปี 2560 คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 24,000 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมแอนิเมชันคาดว่าจะเติบโต 1.8% สาขาอุตสาหกรรมคาแรกเตอร์คาดว่าจะเติบโต 9.6% สาขาเกมคาดว่าจะเติบโต 12.2% ขณะที่ ปี 2561 คาดว่าดิจิตอลคอนเทนต์ จะมีมูลค่า 26,000 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมเกมจะขยายตัวสูงสุด 12% แอนิเมชัน 10% และอุตสาหกรรมคาแรกเตอร์ 8.1%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1-13