เอ.พี.ฮอนด้า ฟันธงยอดขาย1.46ล้านคัน

07 พ.ย. 2560 | 23:00 น.
กรมการขนส่งทางบกเปิดเผยตัวเลขจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ พบว่า มกราคม-กันยายน 2560 มีทั้งสิ้น 1,394,673 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 3 -4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ฮอนด้า มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,093,554 คัน, ยามาฮ่า 207,652 คัน, จีพีเอ็กซ์ 22,808 คัน, ซูซูกิ 16,806 คัน และ คาวาซากิ 13,163 คัน

สำหรับฮอนด้า ถือเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์บ้านเรามาอย่างยาวนาน ทั้งในกลุ่มรถขนาดเล็ก-รถบิ๊กไบค์ อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับคนไทย ดังจะเห็นจากการแต่งตั้งคนไทยให้ดำรงตำแหน่งใหญ่วันนี้ “ฐานยานยนต์” มีโอกาสสัมภาษณ์ “สุชาติ อรุณแสงโรจน์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในคนไทยที่ได้รับความไว้วางใจให้ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนและขับเคลื่อนแบรนด์ฮอนด้าให้เติบโต

[caption id="attachment_227372" align="aligncenter" width="503"] สุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด สุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด[/caption]

**ผลงานฮอนด้าในไทย
9 เดือนที่ผ่านมา ยอดจดทะเบียนฮอนด้าเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดรวม โดยยอดขายหลักมาจากรถในกลุ่มแฟมิลี่ 50% รองลงมาคือ เอที 33% และสปอร์ต 17% คาดว่าจนถึงสิ้นปีเราน่าจะทำตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 1.46 ล้านคัน

**แผนงาน Q4
ตลาดนี้แข่งขันกันด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยตั้งแต่ต้นปีเราเปิดตัวไปแล้ว 4 รุ่น และ 2 เดือนที่เหลือของปีนี้เราจะมีการปรับโฉมอีก 2 รุ่นและปลายปีนี้เราจะเข้าร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยจะมีไฮไลต์มานำเสนอเหมือนดังเช่นทุกปี

**เครือข่ายโชว์รูม
เรามีดีลเลอร์ 500 ราย และมีจำนวนโชว์รูมทั้งหมดกว่า 1,000 แห่ง โดยแผนงานด้านเครือข่ายนั้นเราไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ดังนั้นเราต้องมีการดูแล ตรวจเช็ก และปรับตัวให้สอดคล้องกัน ยกตัวอย่าง โชว์รูมทั้ง 1,000 แห่งมีการติดแอร์คอนดิชันเนอร์ มีอินเตอร์เน็ตฟรีไว-ไฟให้บริการ โดยรูปแบบของโชว์รูมรถจักรยานยนต์ในตอนนี้จะคล้ายกับโชว์รูมรถยนต์

นอกจากนั้นแล้วเรายังจับมือกับ “เกรฮาวด์” เปิดแนวคิดธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ “คับเฮ้าส์” (CUB HOUSE) เรียกว่าเป็นครั้งแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่รวบรวม เอาไลฟ์สไตล์ แฟชั่น อาหาร เครื่องดื่ม รถจักรยานยนต์รุ่นยอดนิยม รุ่นพิเศษ มารวมกันอยู่ในร้านนี้ ถือเป็นสถานที่แฮงเอาต์สำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเราจะทำสาขาต้นแบบและเปิดให้บริการปีหน้า หลังจากนั้นจะดูผลการตอบรับของตลาด และเปิดโอกาสให้ดีลเลอร์ขยายสาขาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นบริษัทตั้งเป้า 40 แห่งภายในปี 2563
บาร์ไลน์ฐาน **ตลาดรถบิ๊กไบค์
ตลาดรถบิ๊กไบค์ มีปริมาณการขายรวม 2.8-3.0 หมื่นคัน เติบโตประมาณ 15-20% โดยตลาดนี้ยังไม่ใหญ่มาก มีโอกาสเติบโตสูงในแต่ละปี ในส่วนของฮอนด้ามีเป้าหมายการขายในตลาดนี้จำนวน 1.3-1.4 หมื่นคัน และครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 46% โดยแผนงาน
ของฮอนด้า บิ๊กไบค์ คาดว่าจะมีรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่โชว์รูมบิ๊กวิง สำหรับรถบิ๊กไบค์นั้น มีจำนวน 20 แห่ง

**โอกาสรถจยย.ไฟฟ้า
เรื่องของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ซึ่งบริษัทแม่มีแผนที่จะเข้ามารุกตลาดนี้อยู่แล้ว ส่วนในเมืองไทยก็เดินตามนโยบายของบริษัทแม่ แต่เบื้องต้นรถไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยต้องดูความพร้อมเรื่อง อินฟราสตรักเจอร์ หรือสาธารณูปโภคที่จะมารองรับ

**วิเคราะห์ตลาด 2 ล้อ
ตลาดรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงกันยายนมีอัตราการเติบโตประมาณ 3-4% คาดว่าตัวเลข จดทะเบียนทั้งปีจะอยู่ที่1.8-1.9 ล้านคัน โดยปัจจัยที่มีผลกับตลาดคือเศรษฐกิจดี, ราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัว, การส่งออกที่เพิ่มขึ้น, การท่องเที่ยวที่สร้างเม็ดเงินไหลเข้าประเทศทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกทำให้ตลาดโต และทำให้ลูกค้ามีเงินจับจ่ายใช้สอย มีการซื้อรถเพิ่มหรือเปลี่ยนคันใหม่ส่วนปี 2561 ตลาดมีแนวโน้มดีอย่างแน่นอน เพราะมีการเลือกตั้ง ที่จะมีผลต่อความเชื่อมั่น,เศรษฐกิจจะดีขึ้น คาดว่าตัวเลขจดทะเบียนจะอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่จะเข้ามากระทบนั้น ยังมองไม่เห็น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว