บิ๊กบ็อกซ์วัสดุรายได้กระฉูด 9เดือนโฮมโปร-สยามโกลบอลเฮ้าส์ฟัน6.2หมื่นล้าน
2 ค่ายบิ๊กบ็อกซ์โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 60 “โฮมโปร” กวาดรายได้รวมกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท “สยามโกลบอลเฮ้าส์” โกยทะลุ 1.5 หมื่นล้านบาท จากการขยายสาขา
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ “โฮมโปร” ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทช่วง 9 เดือนปี 2560 มีรายได้รวม 47,201.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,145.72 ล้านบาท หรือ 4.76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลการเติบโตจากยอดขายสาขาใหม่ ทั้งธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียนอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าเช่าและบริการ จำนวน 1,378.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.35 ล้านบาท หรือ 2.86% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าของสาขาโฮมโปรที่เปิดใหม่ในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีส่วนของรายได้อื่นจำนวน 1,651.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.89 ล้านบาท หรือ 0.66% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากค่าบริการ “Home Service”
[caption id="attachment_227340" align="aligncenter" width="335"]
คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)[/caption]
ขณะที่กำไรขั้นต้นมี 11,523.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 886.79 ล้านบาท หรือ 8.34% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing การวางแผนการจัดซื้อสินค้า รวมถึงธุรกิจเมกา โฮมและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นได้ผลประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการของบริษัท ในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นโดยมีปัจจัยหลักจากภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ในขณะที่จังหวัดที่มีการพึ่งพาการเกษตรยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับตํ่าแม้ผลผลิตอยู่ในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามอุปสงค์ภายในประเทศยังคงเติบโตในระดับปานกลาง และการบริโภคสินค้าคงทนที่ปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ
นอกจากนี้บริษัทได้มีการกระตุ้นยอดขายทั้งในรูปแบบการส่งเสริมการขายและการจัดกิจกรรมเพิ่มเติม รวมถึงการปรับรูปแบบสาขาของ Home Pro Living จำนวน 2 สาขามาเป็น Home Pro S ที่สาขาเดอะพาซิโอ ลาดกระบังและสาขาโคราช ที่เทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้การปรับรูปแบบของ HomePro S เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์ “Small” ในรูปแบบร้านขนาดกะทัดรัด สะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า “Select” จากการเลือกสรรสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในการซ่อมแซม ปรับปรุง ทดแทนซื้อหาได้บ่อยๆ และ “Service” บริการเรื่องบ้านโดยทีมงานคุณภาพจากโฮมโปร
ในไตรมาส 3 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยมีการเปิดสาขาเมกา โฮม 1 สาขาในจังหวัดเชียงรายเพื่อรองรับกำลังซื้อในภาคเหนือ และเปิดสาขาโฮมโปร ในประเทศมาเลเซีย 2 สาขา ที่ Ipoh และ Penang โดยการเปิดสาขาในประเทศมาเลเซียให้มากขึ้นเพื่อให้ได้การประหยัดต่อขนาดที่มากขึ้น (Economies of Scale) ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทมีสาขาของโฮมโปร84 สาขา สาขาของเมกา โฮม 12 สาขา และสาขาของ โฮมโปร ประเทศมาเลเซีย 5 สาขา
ด้านบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 15,456.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 จำนวน 1,152.98 ล้านบาท หรือ 8.06% เป็นผลมาจากการเปิดสาขาเพิ่ม 9 สาขา ส่วนไตรมาส 3 ปี 2560 มีรายได้ 4,905.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 จำนวน 543.59 ล้านบาท หรือ 12.46%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ “โฮมโปร” ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทช่วง 9 เดือนปี 2560 มีรายได้รวม 47,201.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,145.72 ล้านบาท หรือ 4.76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลการเติบโตจากยอดขายสาขาใหม่ ทั้งธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียนอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าเช่าและบริการ จำนวน 1,378.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.35 ล้านบาท หรือ 2.86% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าของสาขาโฮมโปรที่เปิดใหม่ในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีส่วนของรายได้อื่นจำนวน 1,651.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.89 ล้านบาท หรือ 0.66% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากค่าบริการ “Home Service”
[caption id="attachment_227340" align="aligncenter" width="335"]
ขณะที่กำไรขั้นต้นมี 11,523.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 886.79 ล้านบาท หรือ 8.34% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing การวางแผนการจัดซื้อสินค้า รวมถึงธุรกิจเมกา โฮมและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นได้ผลประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการของบริษัท ในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นโดยมีปัจจัยหลักจากภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ในขณะที่จังหวัดที่มีการพึ่งพาการเกษตรยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับตํ่าแม้ผลผลิตอยู่ในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามอุปสงค์ภายในประเทศยังคงเติบโตในระดับปานกลาง และการบริโภคสินค้าคงทนที่ปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ
นอกจากนี้บริษัทได้มีการกระตุ้นยอดขายทั้งในรูปแบบการส่งเสริมการขายและการจัดกิจกรรมเพิ่มเติม รวมถึงการปรับรูปแบบสาขาของ Home Pro Living จำนวน 2 สาขามาเป็น Home Pro S ที่สาขาเดอะพาซิโอ ลาดกระบังและสาขาโคราช ที่เทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้การปรับรูปแบบของ HomePro S เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์ “Small” ในรูปแบบร้านขนาดกะทัดรัด สะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า “Select” จากการเลือกสรรสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในการซ่อมแซม ปรับปรุง ทดแทนซื้อหาได้บ่อยๆ และ “Service” บริการเรื่องบ้านโดยทีมงานคุณภาพจากโฮมโปร
ด้านบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 15,456.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 จำนวน 1,152.98 ล้านบาท หรือ 8.06% เป็นผลมาจากการเปิดสาขาเพิ่ม 9 สาขา ส่วนไตรมาส 3 ปี 2560 มีรายได้ 4,905.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 จำนวน 543.59 ล้านบาท หรือ 12.46%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
