‘กรุงศรี’คืนกำไรกองหุ้น-LTF เปิดพอร์ตลงทุน PTT-BCP-BEAUTY สูงสุด

06 พ.ย. 2560 | 00:00 น.
บลจ.กรุงศรีฯ มองหุ้นไทยระยะกลาง-ยาวสดใส เดินหน้าปันผล 4 กองทุน หลังกำไรอู้ฟู่ ยํ้ากลยุทธ์เฟ้นหุ้นรายตัว พร้อมเปิดชื่อหุ้น 5 อันดับแรกลงทุนสูงสุด หนุนผลงานฉลุยทิ้งห่างตลาด

นายวิพุธ เอื้ออานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะกลางถึงยาว จากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับตํ่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นไทยที่ยังคงเป็นที่น่าสนใจ
ต่อนักลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ฯอื่นๆ ในภูมิภาค

[caption id="attachment_227207" align="aligncenter" width="335"] วิพุธ เอื้ออานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด วิพุธ เอื้ออานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด[/caption]

สำหรับแนวทางการบริหารกองทุนหุ้นของบลจ.กรุงศรีฯยังคงเป็นการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนรายตัว จากข้อมูลที่ได้รับจากการพบปะกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน การวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ รวมถึงการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอย่างสมํ่าเสมอ โดยเชื่อว่าแนวทางการบริหารกองทุนตราสารทุนดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ดีในระยะกลาง และระยะยาว

ล่าสุดบลจ.กรุงศรีฯ เตรียมจ่ายเงินปันผล 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) รอบบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม -30 กันยายน 2560 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ปันผล (KFTSTAR-D) รอบบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-29 กันยายน 2560 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) รอบบัญชีตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559-30 กันยายน 2560 ในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วยและกองทุนเปิดกรุงศรีทุนทวี 5 (KFTW5) รอบบัญชีตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม-29 กันยายน 2560 ในอัตรา 1.00 บาท ต่อหน่วย

ทั้ง 4 กองทุนกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ทั้งนี้อัตราเงินปันผลที่จ่ายจริงอาจน้อยกว่าหรือมากกว่าอัตราประมาณการดังกล่าวขึ้นอยู่กับปริมาณการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุน ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพอร์ตการลงทุนจากข้อมูล Fund Sheet ของกองทุน KFSDIV และ KFLTFDIV ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นปันผล พบหุ้น 5 อันดับแรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 ได้แก่บริษัท ปตท.ฯ(PTT) บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ (AOT) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยฯ (SCC) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ฯ (INTUCH)

ส่วนกองทุน KFTSTAR-D ลงทุนหุ้นบริษัท บางจาก ปิโตรเลียมฯ (BCP) บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นฯ (SAWAD) บริษัททุนธนชาตฯ (TCAP) บริษัท บ้านปูฯ (BANPU)และบริษัท ปตท.ฯ (PTT)ขณะที่กองทุนKFTW5 ลงทุนหุ้นบริษัทบิวตี้คอมมูนิตี้ฯ (BEAUTY)บริษัทท่าอากาศยานไทยฯ (AOT)บริษัทอาร์เอสฯ (RS) บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นฯ (SAWAD)และบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาฯ (CPN)

บาร์ไลน์ฐาน ด้านผลการดำเนินงานปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 29 กันยายน 2560 กองทุน KFSDIV และ KFLTFDIV ผลตอบแทน 15.41% และ 15.04% ตามลำดับ ส่วนกองทุน KFTW5 ผลตอบแทน 17.89% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเวลาเดียวกันปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.70% ส่วนกองทุน KFTSTAR-D ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนวันที่ 20 มีนาคม -29 กันยายน 2560 อยู่ที่ 10.12%

ปัจจุบันบลจ.กรุงศรีฯมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารกองทุนหุ้นรวมกันกว่า 100,000 ล้านบาท ณ 30 กันยายน 2560 โดยปีนี้ทำผลตอบแทนได้สูงติดอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ข้อมูลจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)ฯณวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี กลุ่มกองทุนหุ้นทั่วไป (Equity General) อันดับ 1 และ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิค ผลตอบแทน 51.80% และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคปันผล 51.60%

ส่วนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีไฟแนนเชี่ยลโฟกัสปันผล50.54%อันดับ2กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50 ปันผล 31.88% ข้อมูล จากมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช(ประเทศไทย)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว