ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่คึกคักเน้นอนุรักษ์วัฒนธรรมศิลปะล้านนา
เริ่มแล้ว ประเพณีเดือนยี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นอนุรักษ์วัฒนธรรมและศิลปะล้านนา เลือกใช้วัสดุกระทงจากธรรมชาติบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ที่ ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “แอ่วยี่เป็งเชียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ ไร้แอลกอฮอล์” โดยจะกลับมามีสีสันและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมประเพณีล้านนาเชียงใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบย้อนยุคที่มีกลิ่นอายความเป็นล้านนา เพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศด้วยความภาคภูมิใจเต็มที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาให้คงอยู่สืบไป
โดย งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560 โดยจัดขึ้น ณ บริเวณสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ , บริเวณรอบคูเมือง ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา และบริเวณข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ , กิจกรรมต๋ามผางปะติ๊ด ส่องฟ้าฮักษาเมือง จำนวนกว่า 100,000 ดวง , การประกวดเทพี - เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 กิจกรรมสืบฮีตสานฮอยวัฒนธรรม บริเวณ 4 แจ่ง 5 ประตูเมือง นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการตกแต่งโคมไฟล้านนาตลอดเส้นทางขบวนแห่ และบริเวณโดยรอบคูเมืองด้านใน เพื่อเติมแต่งแสง สี ยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ให้สว่างไสวต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ประเพณีลอยกระทง หรือ ที่เรียกเป็นภาษาทางภาคเหนือว่า “ประเพณีเดือนยี่เป็ง” ถือเป็นประเพณีที่สำคัญ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ของจังหวัดเชียงใหม่และชาวล้านนา โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายพื้นเมือง พูดคำเมือง และเน้นการจัดกิจกรรมที่สืบสานวัฒนธรรมล้านนาที่บ่งบอกถึงความเป็นล้านนาอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเคร่งครัด
คือ ห้ามปล่อยโคมลอย โคมควัน ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน 2560 โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 - 01.00 น. ส่วนโคมควัน สามารถปล่อยได้ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. ในส่วนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยว ปล่อยโคมลอย / โคมไฟในบริเวณที่จังหวัดเชียงใหม่กำหนดไว้ ที่บริเวณสะพานนวรัฐ ระหว่างเวลา 19.00 -01.00 น.
ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าจังหวัดเชียงใหม่ รณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยขอให้เป็นแบบย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ในแต่ละปีจังหวัดเชียงใหม่ จะมีขยะปริมาณมากกว่า 400-500 ตัน และปีที่ผ่านมามีกว่า 700 ตัน ซึ่งพบว่าขยะที่ลอยมาติดนั้นส่วนใหญ่จะย่อยสลายยาก ดังนั้นก่อนเข้าเทศกาลขอให้ทุกหน่วยเร่งประชาสัมพันธ์ขอให้ช่วยกันรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายง่ายเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ควรเป็นกระทงสีธรรมชาติซึ่งดูสวยอยู่แล้ว และไม่ควรตกแต่งกระทงด้วยวัสดุอื่นเช่นโรยกากเพชร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำได้เช่นกัน จังหวัดเชียงใหม่จึงขอให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุในการทำกระทงแบบย่อยสลายง่าย
ในปีนี้พ่อค้าแม่ค้า ที่ทำกระทงออกมาจำหน่าย จะเน้นวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ วัสดุกระทงใบตอง ,กระทงเปลือกข้าวโพด,กระทงโคนไอศกรีม, กระทงดอกบัว,กระทงขนมปัง,กระทงมันสัมปะหลังฯลฯ เกิดสีสันเทรนใหม่ของกระทงยี่เป็งเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ที่ ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “แอ่วยี่เป็งเชียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ ไร้แอลกอฮอล์” โดยจะกลับมามีสีสันและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมประเพณีล้านนาเชียงใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบย้อนยุคที่มีกลิ่นอายความเป็นล้านนา เพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศด้วยความภาคภูมิใจเต็มที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาให้คงอยู่สืบไป
โดย งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560 โดยจัดขึ้น ณ บริเวณสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ , บริเวณรอบคูเมือง ลานด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา และบริเวณข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ , กิจกรรมต๋ามผางปะติ๊ด ส่องฟ้าฮักษาเมือง จำนวนกว่า 100,000 ดวง , การประกวดเทพี - เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 กิจกรรมสืบฮีตสานฮอยวัฒนธรรม บริเวณ 4 แจ่ง 5 ประตูเมือง นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการตกแต่งโคมไฟล้านนาตลอดเส้นทางขบวนแห่ และบริเวณโดยรอบคูเมืองด้านใน เพื่อเติมแต่งแสง สี ยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ให้สว่างไสวต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ประเพณีลอยกระทง หรือ ที่เรียกเป็นภาษาทางภาคเหนือว่า “ประเพณีเดือนยี่เป็ง” ถือเป็นประเพณีที่สำคัญ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ของจังหวัดเชียงใหม่และชาวล้านนา โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายพื้นเมือง พูดคำเมือง และเน้นการจัดกิจกรรมที่สืบสานวัฒนธรรมล้านนาที่บ่งบอกถึงความเป็นล้านนาอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเคร่งครัด
คือ ห้ามปล่อยโคมลอย โคมควัน ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน 2560 โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 - 01.00 น. ส่วนโคมควัน สามารถปล่อยได้ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. ในส่วนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยว ปล่อยโคมลอย / โคมไฟในบริเวณที่จังหวัดเชียงใหม่กำหนดไว้ ที่บริเวณสะพานนวรัฐ ระหว่างเวลา 19.00 -01.00 น.
ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าจังหวัดเชียงใหม่ รณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยขอให้เป็นแบบย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ในแต่ละปีจังหวัดเชียงใหม่ จะมีขยะปริมาณมากกว่า 400-500 ตัน และปีที่ผ่านมามีกว่า 700 ตัน ซึ่งพบว่าขยะที่ลอยมาติดนั้นส่วนใหญ่จะย่อยสลายยาก ดังนั้นก่อนเข้าเทศกาลขอให้ทุกหน่วยเร่งประชาสัมพันธ์ขอให้ช่วยกันรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายง่ายเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ควรเป็นกระทงสีธรรมชาติซึ่งดูสวยอยู่แล้ว และไม่ควรตกแต่งกระทงด้วยวัสดุอื่นเช่นโรยกากเพชร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำได้เช่นกัน จังหวัดเชียงใหม่จึงขอให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุในการทำกระทงแบบย่อยสลายง่าย
ในปีนี้พ่อค้าแม่ค้า ที่ทำกระทงออกมาจำหน่าย จะเน้นวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ วัสดุกระทงใบตอง ,กระทงเปลือกข้าวโพด,กระทงโคนไอศกรีม, กระทงดอกบัว,กระทงขนมปัง,กระทงมันสัมปะหลังฯลฯ เกิดสีสันเทรนใหม่ของกระทงยี่เป็งเชียงใหม่
