ทริสคงเครดิต LOXLEY ระดับ BBB+ เรทติ้งหุ้นกู้อยู่ที่ A-

03 พ.ย. 2560 | 10:05 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ทริสเรทติ้ง คงเครดิตองค์กร "ล็อกซเล่ย์" ระดับ “BBB+ สะท้อนกำไรหลากหลายธุรกิจ

ทริสเรทติ้ง ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ที่ระดับ “BBB+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีการค้ำประกันบางส่วนของบริษัทที่ระดับ “A-” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงกำไรที่บริษัทมีธุรกิจที่หลากหลายและความสัมพันธ์ที่ยาวนานทั้งกับลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดจำนวนมากที่ได้รับจากเงินปันผลจากบริษัทร่วมที่มีผลกำไรด้วย

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวถูกลดทอนลงจากการที่บริษัทมีอัตรากำไรที่ค่อนข้างต่ำและรายได้ที่ผันผวนซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากงานโครงการ

บริษัทล็อกซเล่ย์ มีสถานะทางธุรกิจอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากบริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายจากธุรกิจหลายประเภท ซึ่งช่วยลดความผันผวนของรายได้ลง บริษัทก่อตั้งในปี 2482 โดยประกอบธุรกิจที่หลากหลายผ่านการถือหุ้นทั้งหมดหรือถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทย่อยต่าง ๆ บริษัทให้บริการและจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย โดยแบ่งสายธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) สายธุรกิจเทคโนโลยี (2) สายธุรกิจการค้า และ (3) สายธุรกิจบริการ บริษัทเป็นทั้งผู้ให้บริการและลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้ำหลายแห่ง บริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าเหล่านี้ช่วยขยายขอบเขตกิจการของบริษัทออกไปในหลาย ๆ ธุรกิจ เช่น การผลิตและจำหน่ายน้ำมันเครื่อง เหล็กแผ่นเรียบเคลือบโลหะและเคลือบสี สายใยแก้วนำแสง และอื่น ๆ เป็นต้น

สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะการแข่งขันในการประมูลงานและสร้าง
รายได้จากงานโครงการได้ในระดับที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ บริษัทน่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและได้รับผลตอบแทนจาก
บริษัทร่วมที่สร้างกำไรด้วย

ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจปรับขึ้นหากบริษัทสามารถปรับปรุงอัตรากำไรทำกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญและการลงทุนของบริษัทได้รับผลตอบแทนอย่างมาก ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากรายได้ของบริษัทปรับลดลงอย่ำงมาก รวมทั้งอัตรำกำไรทำกำไรของบริษัทปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือเงินปันผลปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ