ADVANC อวดงบ Q3 กำไร 7.4 พันล้าน เติบโต 14%

02 พ.ย. 2560 | 11:25 น.
ADVANC กำไรสุทธิไตรมาส 3 จำนวน 7,468 ล้านบาท เติบโต 14.39% จากงวดปีก่อน รายได้เพิ่ม 4% ส่วน 9 เดือนกำไรหด 7.5% เหตุค่าเสื่อมราคา ต้นทุนการเงินเพิ่มจากลงทุนโครงข่าย 4G และใบอนุญาตคลื่นความถี่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2560 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 7,468.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.51 บาท เพิ่มขึ้น 14.39% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 6,529.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.20 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 22,376.68 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 7.53 บาท ลดลง 7.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 24,198.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.14 บาท เนื่องจากค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงข่าย 4G และใบอนุญาตคลื่นความถี่

บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2560 จำนวน 38,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และรายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อย่างไรก็ตามรายได้รวมปรับตัวลง 1.3% จากไตรมาสที่แล้ว จากรายได้จากการขายซิมและโทรศัพท์ที่ลดลง ขณะที่ต้นทุนรวม 22,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสที่แล้ว โดยต้นทุนการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย)
อยู่ที่ 15,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุน 4G ที่สูงขึ้น ชดเชยกับต้นทุนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ลดลง

ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 116,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จากปีก่อน เนื่องจากทั้งรายได้จากการให้บริการและรายได้จากการขายซิมและโทรศัพท์ที่เติบโตขึ้น โดยรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) อยู่ที่ 95,972 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากปีก่อน เทียบกับคาดการณ์การเติบโตทั้งปีที่ 4-5% โดยแบ่งเป็นรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต 3.7% จากปีก่อน เนื่องจากความนิยมใช้งานวิดีโอสตรีมมิ่งและฐานลูกค้าระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเติบโต 353% จากปีก่อน เนื่องจากการขยายฐานผู้ใช้บริการประกอบกับรายได้ต่อผู้ใช้บริการต่อเดือนเฉลี่ยสูงขึ้นหลังจากแคมเปญส่วนลดได้ทยอยหมดอายุลง ในด้านของต้นทุน ต้นทุนการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนอยู่ที่46,480 ล้านบาท จากการลงทุนในโครงข่าย 4G และใบอนุญาตคลื่นความถี่

ในขณะที่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตลดลงจากปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 14% จากปีก่อน อยู่ที่ 18,739 ล้านบาท จากการท าแคมเปญส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ที่ลดลง ส่งผลให้เอไอเอสมี EBITDA เท่ากับ 52,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และอัตรากำไร EBITDA margin เพิ่มขึ้นจาก 41.2% ในปีก่อน เป็น 44.7% เทียบกับคาดการณ์อัตรากำไร EBITDA ทั้งปีที่ 42-44% อ๊ายยยขายของ-7-1