"ศุภชัย"ลั่นดันเครือซีพีทั่วโลกสู่ระดับเวิลด์คลาสในปี 63

02 พ.ย. 2560 | 10:30 น.
เครือซีพีประกาศเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในทุกมิติสู่องค์กรความยั่งยืนระดับโลก เป้าปี 2563 ยกระดับบริษัทในเครือ 20 ประเทศสู่เวิลด์คลาส ผลิตภัณฑ์ของเครือ 50% เป็นนวัตกรรมใหม่ เล็งตั้งกองทุน CP Social Impact ประเดิม 1-2 พันล้าน

235617 นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือซีพี เปิดเผยว่าปีนี้ถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญในการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือซีพี ซึ่งเกิดขึ้นจากการมุ่งมั่นและพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของเครือซีพีและบริษัทในเครือฯทั้งหมดโดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจหลักของเครือฯจึงทำให้องค์กรกรด้านความยั่งยืนในระดับโลกต่างให้การยอมรับ โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาCPF, CPALL และ TRUE ซึ่งเป็น 3 บริษัทหลักในเครือฯได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI หรือ กลุ่มดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ Dow Jones Sustainability Indices ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความยั่งยืนระดับโลก

นอกจากนี้สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ World Business Council on Sustainable Development (WBCSD) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจที่ยั่งยืน ได้รายงานผลคะแนนความยั่งยืนของบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกโดยพบว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้คะแนนถึง 72.2% อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกที่มีคะแนนอยู่ระหว่าง 78-82% รวมถึงการที่ CPF และ TRUE ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความความยั่งยืน FTSE4Good Emerging Index จัดอันดับโดยฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ตอกย้ำแนวทางความยั่งยืนของเครือซีพีสอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก และล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาโครงการ CGR 2560 ซึ่งจัดโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย IOD ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า CPF และ TRUE ได้คะแนน 5 ดาว ส่วน MAKRO ได้คะแนน 4 ดาว

235618 เครือซีพีมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชุมชนและสังคมทั่วทุกแห่งที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้าง อาหารคน อาหารสมอง สร้างโอกาสในการเข้าถึงคุณค่า เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยในปีนี้เครือซีพีได้จัดทำรายงานความยั่งยืนขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งในรายงานฉบับนี้ได้ประกาศเป้าหมายและตัวชี้วัดการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2563 (CP Group Sustainability Goals 2020)เพื่อให้ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯทั่วโลกดำเนินการเพื่อบรรลุ 12 เป้าหมายแห่งความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs โดยเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนของเครือซีพีจะเป็นแรงสำคัญในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งต่อการดำเนินธุรกิจของตนเอง ประเทศไทย และสังคมโลก

สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯรวม 13 กลุ่มทั่วโลกจะต้องดำเนินการให้สำเร็จในปี พ.ศ.2563 นั้นจะเป็นไปภายใต้ยุทธศาสตร์ Heart-Health-Home คือ 1.Heart ความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยเป้าหมายและตัวชี้วัด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการกำกับดูแลกิจการ ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านการพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคล ด้านการสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้เสีย 2.Health ความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนประกอบด้วยเป้าหมายและตัวชี้วัด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านคุณค่าทางสังคม ด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดี ด้านการศึกษา ด้านการบริหารจัดการนวัตกรรม 3.Home ความมุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ประกอบด้วยเป้าหมายและตัวชี้วัด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านการดูแลรักษาทรัพยากรน้ำ ด้านการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ
อย่างไรก็ดีทางเครือซีพีได้เตรียมจัดตั้งกองทุน CP Social Impact Fund มีเงินเริ่มต้น 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจ และชุมชนในการสร้างธุรกิจและการสร้างงานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นจะเป็นลักษณะการสนับสนุนให้มีการต่อยอดธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดยเครือจะนำองค์ความรู้และการตลาดเข้าช่วยเหลือ กองทุนดังกล่าวจะเปิดกว้างให้ธุรกิจนำเสนอโครงการเข้ามายังเครือเพื่อร่วมทุน หากประสบความสำเร็จแล้วทางเครือก็จะออกจากการร่วมทุน

ขณะที่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา(ปี 2558-2560)ทางเครือได้ให้งบประมาณโครงการทางสังคมจำนวนเงินรวม 1.57 หมื่นล้านบาท ได้แก่ งบประมาณโครงการดเน CSR และเงินบริจาครวม 3,000 ล้านบาท ,ทุนการศึกษาของเครือ + สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ + ทุน CPALL รวม 2,000 ล้านบาท, งบประมาณโครงการผิงกู่ในจีนรวม 8,000 ล้านลาท และงบประมาณลงทุนด้าน ICT Digital Connectivity โรงเรียนประชารัฐรวม 2,700 ล้านบาท

“เป้าหมายองค์รวมของเครือในทุกประเทศ(มีการลงทุนในเวลานี้ใน 20 ประเทศ)ในปี 2020 จะยกระดับเป็นบริษัทระดับเวิลด์คลาส หรือในระดับสากล”ประธานคณะผู้บริหารเครือซีพี กล่าว

อนึ่ง เป้าหมายความยั่งยืนของเครือซีพีในปี 2563 ทุกกลุ่มธุรกิจต้องบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 12 ด้าน ภายใต้กรอบ “3Hs” ได้แก่ HEART (มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน) HEALTH(มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน) และ HOME(มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน) โดยเป้าหมาย เช่น เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยรวมถึงกลุ่มเปราะบาง 1 แสนรายได้รับการส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิต,ร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นสุขโภชนาการ สุขภาพ และสุขภาวะที่ดี, เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ 4.35 ล้านคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะที่จำเป็น, มีมูลค่านวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการร้อยละ 50 เทียบกับปีฐาน 2559 ,ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยรายได้ลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558, ลดปริมาณการนำน้ำมาใช้ต่อหน่วยรายได้ลงร้อยละ 10 เทียบกับปีฐาน 2558 เป็นต้น อ๊ายยยขายของ-7-1