บัญชีกลางปรับวิธีจัดซื้อยาฯเพื่อประโยชน์ของประชาชน

02 พ.ย. 2560 | 10:12 น.
คณะกรรมการวินิจฉัยฯ กรมบัญชีกลาง ให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ตามวิธีที่กำหนด เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและเกิดความคล่องตัวเพิ่มขึ้น

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กำหนดวิธีจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาให้หน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุส่งเสริมสุขภาพและสาธารณสุขมีความคล่องตัว ช่วยส่งเสริมการจัดซื้อยาตามบัญชีนวัตกรรมของไทย ส่งผลดีต่อประชาชนให้ได้รับการรักษาที่มีความต่อเนื่อง และเป็นไปตามหลักการของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

banci

สำหรับวิธีการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดซื้อยาตามชื่อสามัญในบัญชียาหลักแห่งชาติตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติกำหนด โดยใช้เงินงบประมาณจัดซื้อยาดังกล่าวไม่น้อยกว่า 60% รวมทั้งสามารถจัดซื้อยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติหรือเวชภัณฑ์ที่ผลิตออกจำหน่าย โดยองค์การเภสัชกรรมหรือสภากาชาดไทยได้ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ขณะเดียวกัน ยังให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อยาตามชื่อสามัญหรือเวชภัณฑ์ ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยและองค์การเภสัชกรรมหรือสภากาชาดไทยมิได้ผลิตออกจำหน่าย โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ไม่น้อยกว่า 30% ของเงินงบประมาณค่าจัดซื้อยาหรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ซึ่งได้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยตามบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาของหน่วยงานนั้นๆ แล้วแต่กรณี

ในกรณีที่องค์การเภสัชกรรมหรือสภากาชาดไทย มิได้เป็นผู้ผลิตแต่มีจำหน่าย ให้ส่วนราชการจัดซื้อยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยวิธี e-bidding จากผู้ขายรายใดก็ได้ หรือหากจัดซื้อยาโดยวิธีคัดเลือก ให้เชิญชวนองค์การเภสัชกรรมและโรงงานเภสัชกรรมทหารเข้ายื่นข้อเสนอด้วยทุกครั้ง หรือหากอยู่ในเงื่อนไขที่จะจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ให้ซื้อจากผู้ขายรายใดก็ได้ แต่ราคาที่ซื้อต้องไม่สูงกว่าราคากลางที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ หรือกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ กรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม และโรงพยาบาลราชวิถี เกี่ยวกับกรณีการมอบหมายให้โรงพยาบาลราชวิถีจัดซื้อยากลุ่มพิเศษแทนโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในปีงบประมาณ 2561 ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างจัดทำหลักเกณฑ์ เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการจัดซื้อยากลุ่มพิเศษนี้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างถูกต้อง และทำให้ประชาชนที่ใช้สิทธิภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มั่นใจได้ว่าจะมียาเพียงพอกับความต้องการในการรักษาผู้ป่วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว