กูรูแนะ! ทยอยซื้อกอง LTF เลี่ยงหุ้นใหญ่

05 พ.ย. 2560 | 08:37 น.
1536

“มอร์นิ่งสตาร์” แนะกลยุทธ์ลงทุน LTF หลังทะลุ 1,700 จุด กลุ่มรับความเสี่ยงได้น้อย แนะกองที่ลงทุนหุ้น 70% หากรับความเสี่ยงได้สูง เชียร์หุ้นขนาดกลางและเล็กช่วยกระจายพาร์ต

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุนอาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นเหนือระดับ 1,700 จุด ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กังวลกับราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปี จึงแนะนำให้ทยอยลงทุนหรือแบ่งเงินประมาณ 60% ของวงเงินที่เตรียมไว้ลงทุนปีนี้ เข้าซื้อ เนื่องจากมองว่า จากนี้ไปจนถึงสิ้นปี ความต่างของการซื้อตอนนี้กับตอนปลายปีคงไม่เกิน 3-5%

 

[caption id="attachment_181586" align="aligncenter" width="503"] image288774411 กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุนอาวุโส บริษัทมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก และยังกังวลกับตลาดหุ้นที่ขึ้นมามาก อาจเลือกกองทุน LTF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นประมาณ 70% และตราสารหนี้ 30% ส่วนผู้ที่ยังต้องการลงทุนหุ้นทั้ง 100% อาจกระจายลงทุนไปยังกองทุน LTF ที่เน้นหุ้นขนาดกลางและเล็ก จากที่ผ่านมา กองทุน LTF จะเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ จึงช่วยกระจายพอร์ต

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นที่ขึ้นมากว่า 11% ในปีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรกองทุน LTF ออกมา และยังไม่เข้าซื้อรอบใหม่ อาจรอหุ้นปรับฐานหรือรอมาตรการรัฐที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ประกอบกับทุก ๆ ปี นักลงทุนมักรอซื้อปลายปี ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 30 ต.ค. 2560 มีเงินไหลออกจากกองทุน LTF สุทธิ 19,170 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1,196 ล้านบาท

ด้าน กองทุน LTF ที่ผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรก ในปี 2560 ข้อมูล ณ วันที่ 30 ต.ค. 2560 ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นระยะยาวไทยสมอล-มิดแคป ปันผล 28.07%, อันดับ 2 กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นระยะยาว 27.79% และอันดับ 3 กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นระยะยาวอิควิตี้ 26.63% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี กองทุนที่มีผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดบรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว 11.77% ต่อปี, อันดับ 2 กองทุนเปิดภัทร หุ้นระยะยาว ปันผล 10.53% ต่อปี และอันดับ 3 กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50 ปันผล 10.50% ต่อปี


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

สำหรับกองทุน RMF ลงทุนหุ้นไทยที่มีผลตอบแทนสูงสุดในปี 2560 ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ 28.37%, อันดับ 2 กองทุนเปิดกรุงศรี อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ 26.21% และอันดับ 3 กองทุนเปิดบัวหลวง โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ 23.74%

ขณะที่ กองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดย้อนหลัง 5 ปี ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดภัทร หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ 11.03% ต่อปี, อันดับ 2 กองทุนเปิดกรุงศรี อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ 11.42% ต่อปี และอันดับ 3 กองทุนเปิดบัวหลวง โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ 10.82% ต่อปี

 

[caption id="attachment_180454" align="aligncenter" width="503"] นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด[/caption]

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน โดยออกกองทุนเปิด ‘แอสเซทพลัส โรโบติกส์’ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ROBOTRMF) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูงในระยะยาวจากแนวโน้มการเติบโตของหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก และกองทุนเปิด ‘สมอล แอนด์ มิดแคป อิควิตี้’ หุ้นระยะยาว (ASP-SMELTF) ลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก เชื่อผลตอบแทนระยะยาวยังน่าสนใจ เปิดขายครั้งแรกวันที่ 1-17 พ.ย. นี้

ด้าน บลจ.ไทยพาณิชย์ฯ เปิดขายกองทุนเปิด ‘ไทยพาณิชย์ Global Population Trend’ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMPOP) ลงทุนต่างประเทศ เสนอขายครั้งแรกวันที่ 31 ต.ค. ถึง 6 พ.ย. 2560 เน้นลงทุนระยะยาวในตราสาร และ/หรือหลักทรัพย์ของธุรกิจที่ลงทุนได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลก (Global Demographic Trend) ที่สร้างโอกาสให้ผลกำไรยั่งยืน และมีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนหุ้นทั่วไป



หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,310 วันที่ 2-4 พ.ย. 2560 หน้า 15


| ข่าวที่เกี่ยวข้อง |
1- บลจ.แอสเซท พลัส ส่ง RMF ธีมหุ่นยนต์ LTF หุ้นสมอล แอนด์ มิดแคป ลงตลาด



ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว