ฮอนด้าปูพรม ‘อีวี-ปลั๊ก อินไฮบริด’เก๋ง-มอ’ไซค์ จ่อลุย

04 พ.ย. 2560 | 13:07 น.
“โตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2017” ประเทศญี่ปุ่น ค่ายรถยนต์เจ้าถิ่นนำรถต้นแบบที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางในอนาคตที่จะมุ่งไปได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(เอไอ)

M33-3310-1A สำหรับเมืองไทย เตรียมรับกับยุคใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์นี้เช่นกัน ซึ่งการขยับปรับตัวของตลาดโลก ย่อมสร้างความตื่นตัว และปลุกกระแสให้เกิดความต้องการ โดยค่ายรถมีโอกาสได้เก็บข้อมูลศึกษา รวมถึงเตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับในอนาคต

ฮอนด้าที่ลงหลักปักฐานในเมืองไทยอย่างแข็งแกร่งทั้ง ธุรกิจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ และเครื่องบิน(เพิ่งเปิดตัวธุรกิจนี้ในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา) โดย “ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ” ประธานกรรมการบริหาร และผู้แทนกรรมการบริหาร ซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของฮอนด้า หรือถ้านับยอดขายก็อยู่ในอันดับ 8 ของฮอนด้าทั่วโลก

M33-3310-3A ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ฮอนด้าเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้า-ไฮบริดที่น่าสนใจหลายรุ่น พร้อมกำหนดระยะเวลาในการทำตลาดชัดเจน (ตลาดโลกและญี่ปุ่น) อย่าง “คลาริตี้” รถฟิวเซลล์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นดัง เมื่อพัฒนาเป็นรุ่นใหม่ที่ต้องการขายจำนวนมาก(แมสโปรดักต์) จึงมีให้เลือกทั้ง ปลั๊ก-อินไฮบริด และ อีวี โดยขุมพลังแบบลูกผสมเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ เตรียมขายในญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อนของปี 2561 ขณะที่ “ซีอาร์-วี โฉมใหม่” ที่เมืองไทยเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ญี่ปุ่นเตรียมขายในปีหน้า ซึ่งมาพร้อมเวอร์ชันไฮบริด

อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์ของฮอนด้าในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ต้องยกให้รถพลังงานไฟฟ้า อย่าง “สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์” (Sports EV Concept) ซึ่งเป็นรุ่นที่ต่อเนื่องมาจาก “เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์” (Urban EV Concept) ที่เปิดตัวในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2017 เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน แต่ “สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์” จะปรับจุดศูนย์ถ่วงของรถให้ตํ่าลง เน้นสมรรถนะสปอร์ตขับสนุกกว่า

[caption id="attachment_226168" align="aligncenter" width="503"] ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ[/caption]

ด้าน “เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์” ถูกวางให้เป็นรถขนาดเล็กเหมาะกับการขับขี่ในเมือง พัฒนาจากแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ผู้ใช้งานมีอิสระและเพลิดเพลินในชีวิตประจำวัน มีฟังก์ชันการ สื่อสารแบบอินเตอร์แอคทีฟที่เชื่อมโยงระหว่างรถกับคนและสังคมได้มากขึ้น ทั้งยังมีพื้นที่ติดตั้งและจัดเก็บระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับรถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งฮอนด้ามีแผนพัฒนาขึ้นสายการผลิตจริงแน่นอน พร้อมขายในยุโรปเป็นแห่งแรก และตามด้วยญี่ปุ่นในปี 2563

“ฮอนด้ามุ่งเน้นดำเนินการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อันทันสมัย เพื่อมอบความสุขในการขับขี่และการช่วยเหลือผู้คน ทั้งยังตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี2573 จะมียอดขายรถพลังงานไฟฟ้า (รวมอีวี, ปลั๊ก-อินไฮบริด และไฮบริด) เป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดขายฮอนด้าทั้งหมด” ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ กล่าว

M33-3310-4A ส่วนโอกาสของประเทศไทย นายทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ ระบุว่า การทำตลาดรถอีวี ต้องดูความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละประเทศ ที่สำคัญในอาเซียนยังมีความยากตรงที่นโยบายรัฐบาลต่างกัน ทั้งในเชิง การสนับสนุน มาตรฐานสินค้า และภาษีสรรพสามิต ดังนั้นเมื่อถึงปี 2573 รถที่ขายเป็นหลัก ยังคงเป็นกลุ่มไฮบริด กับปลั๊ก-อินไฮบริด
ข้ามมาในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ที่เป็นธุรกิจสร้างรายได้ให้ “ฮอนด้า มอเตอร์” อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว สกูตเตอร์รุ่น “พีซีเอ็กซ์” ที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริดและอีวี เป็นครั้งแรกในโลก

บาร์ไลน์ฐาน สำหรับ “พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด” (PCX Hybrid) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสม ประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า มีแบตเตอรี่เฉพาะตัว พร้อม ACG starter ที่เพิ่มอัตราเร่งในการขับขี่ ด้าน “พีซีเอ็กซ์ อิเล็กทริค”(Honda PCX Electric) หรือ อีวี ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานจากแบตเตอรี่อันทรงพลัง ขับเคลื่อน 100%

“ที่ผ่านมา ฮอนด้าถือเป็นผู้นำในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยพัฒนารถจักรยานยนต์ที่มีอัตราการประหยัดนํ้ามันเชื้อเพลิงด้วยการใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะและเทคโนโลยีหัวฉีดล่าสุดยังก้าวไปสู่รถจักร ยานยนต์ไฟฟ้า อย่างพีซีเอ็กซ์ ไฮบริด และพีซีเอ็กซ์ อิเล็กทริค ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา โดยมีกำหนดวางขายในปีหน้า” นายฮาจิโกะสรุป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,310 วันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
e-book