อีสต์โคสท์ฯรุกธุรกิจแผ่นไม้ หวังเจาะตลาดเฟอร์นิเจอร์

04 พ.ย. 2560 | 12:41 น.
อีสต์โคสท์ฯ ลุยธุรกิจแผ่นไม้ ตั้งบริษัท แพลนเนทบอร์ดฯ ผลิตและจำหน่าย เอ็มดีเอฟบอร์ด ปาร์ติเกิลบอร์ด หวังเจาะตลาดผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมลุยกำลังการผลิตเริ่มต้นที่ 600-800 ลูกบาศก์เมตร/วัน

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า บริษัทสนใจดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ ประกอบด้วย แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิล พร้อมกับเตรียมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อบริษัท แพลนเนทบอร์ด จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย คาดจะจัดตั้งบริษัทย่อยดังกล่าวภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เบื้องต้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 600-800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

[caption id="attachment_226041" align="aligncenter" width="503"] อารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ EC อารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ EC[/caption]

บริษัท แพลนเนทบอร์ด จะมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นจำนวน 50 ล้านบาท มี ECF ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% โดยบริษัทจะใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในการลงทุน และยังได้ขอมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งบริษัทย่อยดังกล่าว ทั้งนี้หากมีความชัดเจนในด้านต่างๆ ก็พร้อมจะเข้าลงทุนอย่างเต็มรูปแบบต่อไป

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิล ปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้วัตถุดิบเพื่อผลิตเฟอร์นิเจอร์ของผู้ผลิตทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ตํ่ากว่า 10% ต่อปี ซึ่งไทยเป็นประเทศผู้ผลิตที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากเป็นอันดับ 4 ของโลก เนื่องจากได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพ และวัตถุดิบไม้ยางพาราในประเทศที่มีเพียงพอรองรับความต้องการใช้งาน

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01 “ปัจจุบันธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เป็นธุรกิจหลักของบริษัทมาอย่างยาวนาน ซึ่งการเข้าศึกษาการลงทุนครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจสู่ต้นนํ้า โดยบริษัทมีความต้องการใช้แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิลเป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว รวมทั้งบริษัทยังมีโอกาสจำหน่ายผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลกที่ปัจจุบันยังมีความต้องการอยู่มาก ประการสำคัญการเข้าลงทุนครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจของ ECF” นายอารักษ์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการรุกตลาดแบรนด์ฟิน่าจากดิสนีย์แลนด์นั้นปัจจุบันมี 7 สาขา ยอดขายในปีนี้ยังทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศและยังต้องลุ้นในอีก 2 เดือนนี้ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหรือไม่ คาดว่าปีหน้าภาพรวมยังน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ อีกทั้งยังมองกลยุทธ์ในการขยายช่องทางการรุกตลาดในด้านอื่นๆเอาไว้อีกด้วย

ทางด้านภาพรวมธุรกิจผลิตและจำหน่ายไม้พื้นเอ็มดีเอฟป้อนตลาดเฟอร์นิเจอร์นั้น ยังเชื่อว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะนำไปใช้ป้อนตลาดเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศแล้วยังนำไปใช้ในงานก่อสร้างได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย อัตราเติบโตจึงอยู่ในระดับไม่ตํ่ากว่า 10% ต่อปี ประกอบกับไทยยังเป็นผู้ผลิตส่งออกอันดับที่ 4 ของโลกดังนั้นด้วยศักยภาพและการเป็นศูนย์กลางการผลิตที่อุดมไปด้วยแหล่งวัตถุดิบจึงเหนือกว่า ไทยจึงพร้อมรุกตลาดเพียงแต่เสริมศักยภาพและมาตรฐานสินค้าเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,310 วันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว