น้ำเหนือที่นครสวรรค์ลดลงต่อเนื่อง ย้ำไม่เอาน้ำผ่านกทม.

27 ต.ค. 2560 | 11:37 น.
-27 ต.ค.60-ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนเริ่มดีขึ้น หลังปริมาณน้ำในแม่เจ้าพระยาบริเวณสถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ลดลงเหลือ 2,979 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที) แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

กรมชลประทาน ยังคงปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,697 ลบ.ม./วินาที มาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 60 จนถึงปัจจุบัน (27 ต.ค. 60) ยังคงระบายน้ำในอัตราเท่าเดิม โดยได้แบ่งรับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาบางส่วน เข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรวมประมาณ 769 ลบ.ม./วินาที ไม่มีแผนที่จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด

ปัจจุบันปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาได้ไหลมาถึงบริเวณจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครแล้ว โดยไม่ได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่

ทั้งนี้ พื้นที่น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอพรหมบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 14 จุด เท่านั้น
อีกทั้ง ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีอัตราการไหลเฉลี่ย 2,826 ลบ.ม./วินาที ยังต่ำกว่าความจุของลำน้ำมาก(บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ปริมาณน้ำดังกล่าว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแต่อย่างใด

สำหรับกรณีของคลองรังสิต นั้น เนื่องจากต้องแบ่งเบาปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ที่จะระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเขื่อนพระรามหก ด้วยการเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์มากขึ้น ส่งผลให้น้ำในคลองต่างๆ รวมถึงคลองรังสิต มีระดับน้ำสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ เนื่องจากในคลองเหล่านี้ จะมีอาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำที่จะควบคุมปริมาณน้ำ โดยไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม สามารถแจ้งข้อมูลหรือติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานชลประทานที่ 11 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ หมายเลขโทรศัพท์ 02 5312913 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว