เสียงดนตรีที่เคยนำความชุ่มฉํ่า สู่หัวใจของชาวหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียง เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒๖ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขณะประทับอยู่ที่วังไกลกังวล ในพ.ศ. ๒๕๐๐ เพื่อพระราชทานให้เป็นเพลงประจำวงดนตรี “อ.ส.วันศุกร์” ใช้บรรเลงเป็นเพลงสุดท้ายก่อนเลิกเล่นดนตรี
ระยะทางที่ไกลจากเมืองหลวง แวดล้อมด้วยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่บริสุทธิ์ “หัวหิน” จึงมิได้เป็นเพียงพระราชฐานที่ประทับแปรพระราชฐานในต่างจังหวัดของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์มาแต่ครั้งรัชกาลก่อนๆ แต่ยังเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงโปรดยิ่ง ดังปรากฏในภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านในนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่ทำให้เราได้พบเห็นพระจริยวัตรของพระองค์เมื่อครั้งเสด็จประทับที่วังไกลกังวล อาทิ การเล่นกับสุนัขทรงเลี้ยง การเสด็จเยือนพื้นที่ต่างๆ ในแถบจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งการทรงงานสร้างโครงการพระราชดำริที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น โครงการสร้างถนนสายห้วยมงคล โครงการพัฒนาชนบทด้านคมนาคม โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างในพระราชดำริ ศูนย์พัฒนาศึกษาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ เป็นต้น
ผ่านมาแล้ว ๖๐ ปี วันนี้เมื่อความสูญเสียของแผ่นดินครั้งยิ่งใหญ่มาเยือน “หัวหิน” ในวันนี้จึงเต็มไปด้วยหยาดนํ้าตา
เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ภาคประชาชนพสกนิกรชาวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมด้วยภาครัฐ ภาคการศึกษา เยาวชน ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนได้หลอมรวมใจเป็นหนึ่ง ร่วมกันจัดงาน “รวมดวงใจคนไทยทั้งชาติกราบพระบาทครั้งสุดท้าย” ที่เดอะเวเนเซีย หัวหิน (The Venezia Huahin) ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา
“รวมดวงใจคนไทยทั้งชาติกราบพระบาทครั้งสุดท้าย” เป็นการหลอมรวมใจเพื่อแสดงออกถึงความอาลัย จงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงงานหนักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนของพระองค์ท่านทั่วแผ่นผืนสุวรรณภูมิ โดยกิจกรรมครั้งนี้ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันเดินเท้าจากวัดไกลกังวลมุ่งหน้าสู่พระราชวังไกลกังวล เพื่อร่วมจุดเทียนถวายเป็นพระราชกุศลใน “ขบวนแสงประทีปแห่งศรัทธา”
ระยะทางร่วมหลายกิโลเมตร กับหัวใจที่มุ่งมั่นหลอมรวมประชาชนชาวหัวหินและในละแวกใกล้เคียง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โอบกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่ปลดลงมาจากฝาบ้าน เพื่อร่วมขบวนแสงประทีปแห่งศรัทธาพาหัวใจดวงน้อยร่วม “ส่งพ่อที่หน้าบ้านพ่อ” ส่งเสด็จในหลวง รัชกาลที่ ๙ ถึงวังไกลกังวล สองข้างทางเต็มไปด้วยกำลังใจของประชาชน ร้านค้า และหน่วยงานต่างๆ เมื่อขบวนแสงประทีปแห่งศรัทธามาถึงพระราชวังไกลกังวล ในเวลา ๑๙.๐๐ น. ทุกคนพร้อมใจกันจุดเทียนและยืนสงบนิ่งบริเวณดังกล่าว ๘๙ วินาที ดวงตาของประชาชนมุ่งตรงสู่พระบรมฉายาลักษณ์และเบื้องหน้า หยาดนํ้าตาที่หลั่งรินไม่อาจทดแทนความรู้สึกที่อัดแน่นเต็มหัวใจได้หมดสิ้น เมื่อเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งดังขึ้น เสียงร้องที่กลั่นมาเพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นครั้งสุดท้าย ต่อด้วยเพลงพระราชาผู้ทรงธรรม เพลงต้นไม้ของพ่อ และเพลงรักพ่อไม่มีวันพอเพียง จึงระคนไปด้วยเสียงสะอื้นไห้
สีของนํ้าตาเทียนที่หยดลงสู่พื้นคอนกรีตนั้นคือโทนสีเดียวกับสีนํ้าตาที่หยดมาจากดวงใจ ระหว่างร่วมกิจกรรม แสงเทียน ที่ดูเหมือนจะเบาบางและพร้อมดับเมื่อไร้มือป้อง กลับสว่างไสวและสวยงามขึ้นมาถนัดตา อันเกิดจากความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วนแสดงออกถึงความสามัคคี ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย ทั้งนี้แสงเทียนยังสะท้อนให้เราเห็นถึงคุณงามความดีที่ทุกคนพึงปฏิบัติ แม้ในช่วงเวลาใกล้รุ่ง ยามเย็น ยามคํ่า หรือแม้กระทั่งมีสายฝน อาทิตย์อับแสง หรือมีสายลม หากเราหมั่นเพียรในการปลูกฝังทำความดีอยู่ในใจเสมอ ควบคู่ไปกับการยิ้มสู้กับทุกปัญหา เราจะก้าวผ่านทุกสิ่งอย่าง พร้อมกับนำพาชุมชน สังคมและประเทศชาติให้ก้าวเดินต่อไปอย่างผาสุก
เรื่อง: อนุวัฒน์ โพธิ์ทอง
ภาพ: ระวิภาส บุญลือ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,309
วันที่ 29 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560