พาณิชย์ขู่ร้านค้าฉวยโอกาสโก่งราคาซ้ำเติมประชาชนช่วงน้ำท่วมเจอคุก!
พาณิชย์ขู่ร้านค้าฉวยโอกาสโก่งราคาซ้ำเติมประชาชนช่วงน้ำท่วมเจอคุก ยันสินค้าไม่ขาดแคลน จับตาผลผลิตปาล์มน้ำมันราคาตก เล็งถกคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ แก้ปัญหา
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ช่วงนี้ ว่า ได้กำชับให้ค้าภายในจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดในแต่ละพื้นที่น้ำท่วมให้ออกสำรวจติดตามปัญหาทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าจำเป็นกับการครองชีพที่มากเกินไป ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนและซ้ำเติมให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขณะนี้อย่างมาก และหากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าไม่มีความเป็นธรรม ถือว่าเป็นการทำผิดต่อกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะมีได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนพบเห็นการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบขายสินค้าที่แพงเกินจริงสามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที
นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่น้ำท่วม และน้ำหลากประสานกับห้างสรรพสินค้าเพื่อเร่งกระจายสินค้าส่งไปสู่พื้นที่ต่างๆให้เต็มที่ และคาดว่าจะไม่มีสินค้าขาดแคลนอย่างแน่นอน และเมื่อหลังน้ำลดแล้ว กรมการค้าภายในจะร่วมกับห้างสรรพสินค้าเตรียมจัดงานสินค้าราคาถูกไปจำหน่ายให้กับประชาชนหลังน้ำลดและยังจะเข้าไปดูสินค้าที่เกี่ยวข้องหลังน้ำลด เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และอุปกรณ์อื่นๆที่มีราคาต่ำกว่าท้องตลาดช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และยังจะใช้รถโมบายธงฟ้าเข้าไปในพื้นที่อีกด้วยรวมทั้งจากการที่มีโครงการธงฟ้าประชารัฐ กระจายอยู่ทั่วประเทศและประชาชนมีบัตรสวัสดิการที่สามารถใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ทำให้บรรเทาความเดือดร้อนได้อีกทางหนึ่ง และประชาชนที่ไม่มีบัตรก็สามารถซื้อสินค้าราคาถูกกว่าทั้งตลาดทั่วไปในร้านดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูกข้าวนั้น รัฐบาลมีแนวทางช่วยเหลือด้วยการทำประกันภัยข้าวนาปีไว้แล้ว โดยเบี้ยประกันภัย 90 บาทต่อไร่ โดยรัฐบาลจ่ายให้ 54 บาทที่เหลือเกษตรกรจ่ายเองแต่หากเกษตรกรเป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส) ทางธนาคารจะดำเนินการจ่ายให้ แต่เกษตรกรจะได้รับการชดเชยความเสียหายไว้ต่อไร่อยู่ที่ 1,260 บาท จึงเชื่อว่าเกษตรกรจะได้รับความบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ และเท่าที่ได้รับรายงานจากทางกรมชลประทานปริมาณน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว
ส่วนผลกระทบในภาพรวมของราคาสินค้าเกษตรในปีนี้ ยังไม่มีสินค้าใดต้องจับตามองเป็นพิเศษเพราะราคาค่อนข้างดี เช่น มันสำปะหลัง ผักสด ผลไม้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ แต่ราคาไม่ได้สูงขึ้นมากจนผิดปกติ แต่ในส่วนของปาล์มน้ำมันมีผลผลิตออกมาค่อนข้างมากในช่วงนี้ ทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) จากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่มีแรงจูงใจเนื่องจากราคา น้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ภายในประเทศราคาใกล้เคียงกัน และในเร็วๆนี้จะมีการหารือในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยอาจใช้มาตรการเดิม เช่น ให้องค์การคลังสินค้า( อคส.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อดูดซับผลผลิตไว้ การระบายผลผลิตออกนอกประเทศ ที่เคยได้รับการอนุมัติไว้จากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.)
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ช่วงนี้ ว่า ได้กำชับให้ค้าภายในจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดในแต่ละพื้นที่น้ำท่วมให้ออกสำรวจติดตามปัญหาทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าจำเป็นกับการครองชีพที่มากเกินไป ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนและซ้ำเติมให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขณะนี้อย่างมาก และหากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าไม่มีความเป็นธรรม ถือว่าเป็นการทำผิดต่อกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะมีได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนพบเห็นการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบขายสินค้าที่แพงเกินจริงสามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที
นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่น้ำท่วม และน้ำหลากประสานกับห้างสรรพสินค้าเพื่อเร่งกระจายสินค้าส่งไปสู่พื้นที่ต่างๆให้เต็มที่ และคาดว่าจะไม่มีสินค้าขาดแคลนอย่างแน่นอน และเมื่อหลังน้ำลดแล้ว กรมการค้าภายในจะร่วมกับห้างสรรพสินค้าเตรียมจัดงานสินค้าราคาถูกไปจำหน่ายให้กับประชาชนหลังน้ำลดและยังจะเข้าไปดูสินค้าที่เกี่ยวข้องหลังน้ำลด เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และอุปกรณ์อื่นๆที่มีราคาต่ำกว่าท้องตลาดช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และยังจะใช้รถโมบายธงฟ้าเข้าไปในพื้นที่อีกด้วยรวมทั้งจากการที่มีโครงการธงฟ้าประชารัฐ กระจายอยู่ทั่วประเทศและประชาชนมีบัตรสวัสดิการที่สามารถใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ทำให้บรรเทาความเดือดร้อนได้อีกทางหนึ่ง และประชาชนที่ไม่มีบัตรก็สามารถซื้อสินค้าราคาถูกกว่าทั้งตลาดทั่วไปในร้านดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูกข้าวนั้น รัฐบาลมีแนวทางช่วยเหลือด้วยการทำประกันภัยข้าวนาปีไว้แล้ว โดยเบี้ยประกันภัย 90 บาทต่อไร่ โดยรัฐบาลจ่ายให้ 54 บาทที่เหลือเกษตรกรจ่ายเองแต่หากเกษตรกรเป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส) ทางธนาคารจะดำเนินการจ่ายให้ แต่เกษตรกรจะได้รับการชดเชยความเสียหายไว้ต่อไร่อยู่ที่ 1,260 บาท จึงเชื่อว่าเกษตรกรจะได้รับความบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ และเท่าที่ได้รับรายงานจากทางกรมชลประทานปริมาณน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว
ส่วนผลกระทบในภาพรวมของราคาสินค้าเกษตรในปีนี้ ยังไม่มีสินค้าใดต้องจับตามองเป็นพิเศษเพราะราคาค่อนข้างดี เช่น มันสำปะหลัง ผักสด ผลไม้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ แต่ราคาไม่ได้สูงขึ้นมากจนผิดปกติ แต่ในส่วนของปาล์มน้ำมันมีผลผลิตออกมาค่อนข้างมากในช่วงนี้ ทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) จากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไม่มีแรงจูงใจเนื่องจากราคา น้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ภายในประเทศราคาใกล้เคียงกัน และในเร็วๆนี้จะมีการหารือในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยอาจใช้มาตรการเดิม เช่น ให้องค์การคลังสินค้า( อคส.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อดูดซับผลผลิตไว้ การระบายผลผลิตออกนอกประเทศ ที่เคยได้รับการอนุมัติไว้จากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.)
