ปัจจัยต่างประเทศกดดันทุนไหลออก

28 ต.ค. 2560 | 00:17 น.
MP18-3308-2A สารพัดปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณว่าเงินทุนมีโอกาสไหลออก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งขึ้น ภาวะราคาทองคำและตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนสูง

ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯจะสามารถผลักดันนโยบายปฏิรูปภาษีเป็นผลสำเร็จหรือไม่ และ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเป็นใคร ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นดีขึ้น ทำให้มีความต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น

ส่วนว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาบุคคลอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน, นายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เพราะจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงิน บ้างก็กลัวว่าจะมีความเข้มข้นขึ้น หากได้ประธานสายเหยี่ยว นายเทย์เลอร์ จากปัจจุบันที่มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนผ่อนคลายลง

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 นอกจากนั้นนักลงทุนต่างให้ความสนใจกับการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน (CDC) ที่จัดขึ้นเป็นวันสุดท้ายใน วันที่ 24 ตุลาคม 2560 อนุมัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค โดยให้นำแนวคิด “ระบอบสังคมนิยมในแบบของจีนเอง เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่” ของนายสี จิ้นผิง เข้าเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางปฏิบัติและรัฐธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์

ขณะเดียวกันการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ คาดว่า ECB จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการที่จะปรับลดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดย ECB คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงสิ้นปีนี้

ปัจจัยต่างประเทศจะเป็นตัวชี้นำเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ไทย และจะสนับสนุนให้ดัชนีหุ้นไทยสร้างสถิติสูงสุดใหม่หรือไม่ในปี 2561

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,308 วันที่ 26 - 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560
e-book-1-503x62