เอกชนแห่ยื่นขายไฟ SPP Hybrid สูงกว่าเป้าหมายรับซื้อ 5 เท่า

24 ต.ค. 2560 | 07:26 น.
กกพ.เผยเอกชนแห่ยื่นขายไฟ SPP Hybrid  รวมจำนวน 85 โครงการ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,644 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมายรับซื้อ 5 เท่า

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน กกพ. เปิดเผยยอดผู้ยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 จากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP Hybrid Firm 2560) รวมจำนวน 85 โครงการ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,644 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมายรับซื้อถึงกว่า 5 เท่า

สำหรับการยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าจากโครงการ SPP Hybrid Firm นี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2560 สรุปยอดผู้ยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้าทั้งหมดจำนวน 85 โครงการ หรือคิดเป็นปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,644 เมกะวัตต์ กำลังผลิตติดตั้งรวม 2,464 เมกะวัตต์ เกินกว่าเป้าหมายการรับซื้อที่วางไว้ที่ 300 เมกะวัตต์

โดยหลังจากนี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและประเมินข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค จะทำการเปิดซองข้อเสนอเทคนิคเพื่อตรวจคุณสมบัติการเข้าร่วมของทั้ง 85 โครงการ และจะต้องพิจารณาควบคู่กับข้อมูลจาก Feeder ที่ยื่นหลังจากผ่านกระบวนการเปิดซอง โดยจะต้องไม่เกินเป้าหมายรับซื้อที่กำหนดตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ภายใต้ประกาศ กกพ. ทั้ง 3 ฉบับที่ใช้บังคับ

อ๊ายยยขายของ-7-1 ทั้งนี้ กกพ. จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติด้านเทคนิคในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. www.erc.or.th แล้วจึงเริ่มพิจารณาข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคาโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินข้อเสนอขายไฟฟ้าด้านราคาต่อไป และจะทำการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. เช่นกัน

สำนักงาน กกพ. ได้ออกประกาศเปิดรับยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 จากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP Hybrid Firm 2560) ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายรับซื้อ 300 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ในเขตพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง จำนวน 15 เมกะวัตต์ ส่วนทีเหลือเป็นพื้นที่ภูมิภาคในเขตการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวนรวม 285 เมกะวัตต์

โดยหลังจากประกาศผลการคัดเลือกแล้ว ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการต้องเร่งดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ทันกำหนดวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 และสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว