สำรองกดกำไรแบงก์น้อยกว่าคาด

23 ต.ค. 2560 | 23:10 น.
MP18-3307-A ธนาคารพาณิชย์รายงานผลงานไตรมาส 3/2560 ออกมาเรียบร้อยแล้ว นักวิเคราะห์บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย)ฯ ประเมินกำไรของแบงก์ขนาดใหญ่ยังคงอ่อนแอกว่าคาดการณ์จากการตั้งสำรองหนี้ที่สูง ส่วนหนึ่งเป็นการตั้งสำรอง เพื่อรองรับมาตรฐานทางบัญชี IFRS9ที่จะนำมาใช้ ทำให้แบงก์เลือกตั้งสำรองล่วงหน้าก่อน เพื่อที่ปีหน้าจะได้ไม่ต้องตั้งสำรองมาก จึงน่าจะมีผลกระทบต่อกำไรในไตรมาส 4 ด้วย

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) ตั้งสำรองมากกว่าที่คาด ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กำไรน้อยกว่าคาด ทำได้เพียง 1.01 หมื่นล้านบาทลดลง 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 15% จากไตรมาส2 หลังรายรับที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยน้อยวาคาดและการตั้งสำรองมากกว่าคาด โดย BBL มีกำไรสุทธิ 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คาดไตรมาส 4 ดีขึ้น จากการเติบโตของสินเชื่อ และตั้งสำรองลดลง

“กำไรสุทธิที่ออกมา ทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าลง ส่วนราคาเป้าหมายของหุ้นแบงก์แต่ละตัว มีมุมมองต่างมุม คือมีทั้งการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายและปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นแบงก์บางตัว เช่น BBL ทางบล.ฟินันเซียไซรัสฯ ให้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 230 บาท ส่วนบล.บัวหลวงฯ ให้เป้าหมาย225 บาท ส่วนบล.ทรีนีตี้ฯ ให้ซื้อเมื่ออ่อนตัว ให้ราคาเพียง 199 บาท แต่ก็ยังสูงกว่าราคาที่ซื้อขายในปัจจุบันที่ 190 บาท

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01 หลังจากนี้ บริษัทจดทะเบียนที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ จะทยอยเปิดตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ออกมานักวิเคราะห์บล.เอเซียพลัสฯ คาดกลุ่มที่จะเห็นการเติบโตโดดเด่น เช่น กลุ่ม โรงพยาบาล และกลุ่มส่งออกแรงหนุนจากช่วงไฮซีซัน

“ดัชนีหุ้นที่ปรับตัวลง ยังถือเป็นการปรับฐานลดความร้อนแรง หลังปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วกว่า 150 จุดเพียง 2 เดือน จึงควรอาศัยจังหวะนี้ทยอยสะสมหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว เน้นหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรโตดีในไตรมาส3 และครึ่งปีหลัง และเลือกหุ้นที่คาดการณ์เงินปันผลสูง เช่น ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKPและ BBL

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-34