‘เจ เฟสติวัล’กระหึ่ม แข่งเสิร์ฟเมนูเด็ด ผ่านออนไลน์-ดีลิเวอรี
เจ เฟสติวัลคึกคัก ร้านอาหาร/ห้างแห่จัดแคมเปญ พร้อมปรับแผนเสริมบริการดีลิเวอรี ทั้งไลน์แมน Gobike Kerry Express ขานรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดตัวเลขคนกรุงกินเจเท่าเดิม ขณะที่มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาท
ตัวเลขคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่า เทศกาลกินเจ (J Festival) ปี 2560 นี้ในเขตกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาท เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการกิน 300 บาทต่อคนต่อวัน ขณะที่บริการ Food Online และ Delivery จะมี การเติบโตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมมากขึ้น แต่สำหรับภาพรวมแล้วเชื่อว่าจะเติบโตแบบทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับแนวคิดของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าบรรยากาศโดยรวมจะคึกคัก แม้ปีนี้จะไม่ได้โหมทำกิจกรรม โฆษณาประชาสัมพันธ์มากนัก
นางสาวอรอนงค์ ทิพย์สังวาลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แบรนด์โอโตยะ ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือซีอาร์จี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้เทศกาลกินเจปีนี้ การจัดกิจกรรมกระตุ้นการขาย โฆษณาต่างๆ จะไม่คึกคักมากเท่าปีก่อน แต่ทว่าในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงมีการรับประทานอาหารเจตามปกติ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูการทานบ้างเล็กน้อยตามราคาและความเหมาะสม ทำให้ภาพรวมของเทศกาลยังคงคึกคัก
“แม้ราคาพืชผักในปีนี้จะมีแนวโน้มแพงขึ้นเป็นเท่าตัวแต่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคอาหารเจจะยังคงทานอาหารเจเช่นเดิม แต่คาดว่าจะเปลี่ยนมารับประทานเมนูที่ทำมาจากเต้าหู้ และอาหารที่ปรุงจากข้าวเป็นหลัก เนื่องมาจากสามารถอิ่มและอยู่ท้องได้นานกว่าเมนูผักและมีราคาถูกกว่า โดยกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาทานอาหารภายในร้านอยู่ที่ช่วงอายุ 30-40 ปี ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยรุ่นก็มีแนวโน้มเข้ามาทานเพิ่มสูงขึ้นทุกปี”
โดยปีนี้ร้านโอโตยะ เตรียมรองรับเทศกาลกินเจด้วยการเปิดตัวเมนูพิเศษ “Vegetarian Festival” ได้แก่ เต้าหู้สดซอสอังคาเกะ, เต้าหู้ย่างราดซอสมิโซะ, สลัดเต้าหู้สด และผัดผักรวมกับเต้าหู้ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นไม่ตํ่ากว่า 20%
อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารในเครือซีอาร์จี ต่างจัดเตรียมเมนูเจไว้ให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch) กับเมนูสเต๊กปลาเจ,ชุดข้าวเปปเปอร์ผงกะหรี่เนื้อเจ/หมูเจ ซอสเทอริยากิ,พาสต้าเทอริยากิเนื้อ/หมูเจ เป็นต้น โคล สโตน ครีมเมอรี่ ( Cold Stone Creamery) กับ “ฟรุตตี้ แฟน ตาซี” ไอศกรีมราสพ์เบอร์รี่ซอร์เบต์ และเลมอนซอร์เบต์, เดอะ เทอร์เรซ (The Terrace) กับ 5 เมนูเจคาวและหวาน อาทิ สปาเกตตีผัดกะเพราเห็ดชิเมจิ-เต้าหู้ทอดเจ, ข้าวผัดปลาเค็มเจ เป็นต้น และ อานตี้ แอนส์ (Auntie Anne’s) กับ Icy Trio เมนูเครื่องดื่มเจด้วย
ด้านนางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินว่าเทศกาลกินเจปีนี้จะมีลูกค้าให้ความสนใจจับจ่ายเลือกซื้ออาหารเจทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ บริษัทจึงจัดเตรียมสินค้าเจออกวางจำหน่ายกว่า 500 รายการ โดยเน้นไปที่อาหารพร้อมทานเป็นหลักซึ่งคาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้น 40% ภายใต้แคมเปญ “สะดวก อร่อย สุขกาย สุขใจ” โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาเมนูเจขึ้น เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก และคุณภาพที่ดี อาทิ โอนิกิริไส้ลาบเจ ข้าวคั่วกลิ้งเจ นํ้าพริกหนุ่มเจ ขนมปังไรซ์เบอร์รี่เผือกเจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลไม้สด ผักสด เครื่องปรุง และอาหารพร้อมทานจากครัวมลิวัลย์ที่ปรุงสดให้เลือกซื้อตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
“จากแนวโน้มลูกค้าที่เลือกซื้ออาหารเจผ่านบริการดีลิเวอรีที่มากขึ้น ในปีนี้แฟมิลี่มาร์ท จึงร่วมกับ Gobike และ Kerry Express ให้บริการจัดส่งอาหารเจถึงบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก และความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริการรับประทานในร้านซึ่งจะเปิดให้บริการ 2 สาขาได้แก่ ฮอลิเดย์อินน์สีลม และสุขุมวิท 33 ด้วย”
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า คาดว่างานเดอะ มอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทยที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ จะมีลูกค้าเข้าร่วมงานไม่ตํ่ากว่า 2.5 แสนคนต่อวัน สร้างยอดขายไม่ตํ่ากว่า 170 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปีนี้เดอะ มอลล์ร่วมกับพันธมิตรเพื่อเสริมบริการต่างๆ ให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารและภัตตาคารที่เข้าร่วมกว่า 300 ร้าน บริการส่งอาหารเจแบบดีลิเวอรีจากไลน์แมน (LineMan) นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิกเมืองไทย Smile Club ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้นอกจากเดอะ มอลล์สาขาในเขตกรุงเทพฯแล้ว เดอะมอลล์ โคราช ก็จัดงานเดอะมอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วอีสานขึ้น โดยไฮไลต์จะเป็นการจัดทำเมนูเจสุดพิเศษ โดยใช้ข้าวจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมอาหารเจต้นตำรับทั้งคาวหวาน อาทิ ข้าวผัดแปดเซียน, ข้าวอบเผือก, เส้นหมี่ข้าวสังข์หยดแกงเขียวหวานเจ ฯลฯ และกิจกรรม “๙ นี้เพื่อให้ ก้าวไปตามรอยพ่อ” กับผัดหมี่เจกระทะยักษ์การกุศลเพียงชุดละ 9 บาท หรือมากกว่าตามจิตศรัทธา รายได้จากการจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้ “มูลนิธิชัยพัฒนา” ด้วย
ขณะที่นางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดว่าเทศกาลกินเจปีนี้บิ๊กซีจะมียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 15% ซึ่งเป็นอานิสงส์มาจากประชาชนชาวไทยที่ต้องการรับประทานอาหารเจเพื่อทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยงาน “กินเจอิ่มใจ สดใหม่ที่บิ๊กซี” ในปีนี้จึงจัดเตรียมทั้งเบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ วัตถุดิบและอาหารปรุงสำเร็จกว่า 900 รายการมาจำหน่าย พร้อมตั้งจุดจำหน่ายอาหารพร้อมทานกว่า 20 เมนู เช่น ผัดผักสี่เซียน แกงพะแนงเจ แกงขี้เหล็กเจ แกงเผ็ดเป็ดย่างเจ ต้มกะหลํ่าปลีเจ ฯลฯ มีราคาเริ่มต้น 10 บาท ขณะที่วัตถุดิบเช่น ผักสด มีราคาเริ่มต้น 9 บาท ของสดเจ ราคาเริ่มต้น 13 บาท ผลไม้สด ราคาเริ่มต้น 25 บาท เบเกอรี่เจ ราคาเริ่มต้น 5 บาท และเสื้อผ้าขาว ราคาเริ่มต้น 125 บาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ตัวเลขคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประเมินว่า เทศกาลกินเจ (J Festival) ปี 2560 นี้ในเขตกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจสะพัดกว่า 4,500 ล้านบาท เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการกิน 300 บาทต่อคนต่อวัน ขณะที่บริการ Food Online และ Delivery จะมี การเติบโตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมมากขึ้น แต่สำหรับภาพรวมแล้วเชื่อว่าจะเติบโตแบบทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับแนวคิดของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าบรรยากาศโดยรวมจะคึกคัก แม้ปีนี้จะไม่ได้โหมทำกิจกรรม โฆษณาประชาสัมพันธ์มากนัก
นางสาวอรอนงค์ ทิพย์สังวาลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แบรนด์โอโตยะ ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือซีอาร์จี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้เทศกาลกินเจปีนี้ การจัดกิจกรรมกระตุ้นการขาย โฆษณาต่างๆ จะไม่คึกคักมากเท่าปีก่อน แต่ทว่าในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคยังคงมีการรับประทานอาหารเจตามปกติ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูการทานบ้างเล็กน้อยตามราคาและความเหมาะสม ทำให้ภาพรวมของเทศกาลยังคงคึกคัก
“แม้ราคาพืชผักในปีนี้จะมีแนวโน้มแพงขึ้นเป็นเท่าตัวแต่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคอาหารเจจะยังคงทานอาหารเจเช่นเดิม แต่คาดว่าจะเปลี่ยนมารับประทานเมนูที่ทำมาจากเต้าหู้ และอาหารที่ปรุงจากข้าวเป็นหลัก เนื่องมาจากสามารถอิ่มและอยู่ท้องได้นานกว่าเมนูผักและมีราคาถูกกว่า โดยกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาทานอาหารภายในร้านอยู่ที่ช่วงอายุ 30-40 ปี ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยรุ่นก็มีแนวโน้มเข้ามาทานเพิ่มสูงขึ้นทุกปี”
โดยปีนี้ร้านโอโตยะ เตรียมรองรับเทศกาลกินเจด้วยการเปิดตัวเมนูพิเศษ “Vegetarian Festival” ได้แก่ เต้าหู้สดซอสอังคาเกะ, เต้าหู้ย่างราดซอสมิโซะ, สลัดเต้าหู้สด และผัดผักรวมกับเต้าหู้ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นไม่ตํ่ากว่า 20%
อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารในเครือซีอาร์จี ต่างจัดเตรียมเมนูเจไว้ให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch) กับเมนูสเต๊กปลาเจ,ชุดข้าวเปปเปอร์ผงกะหรี่เนื้อเจ/หมูเจ ซอสเทอริยากิ,พาสต้าเทอริยากิเนื้อ/หมูเจ เป็นต้น โคล สโตน ครีมเมอรี่ ( Cold Stone Creamery) กับ “ฟรุตตี้ แฟน ตาซี” ไอศกรีมราสพ์เบอร์รี่ซอร์เบต์ และเลมอนซอร์เบต์, เดอะ เทอร์เรซ (The Terrace) กับ 5 เมนูเจคาวและหวาน อาทิ สปาเกตตีผัดกะเพราเห็ดชิเมจิ-เต้าหู้ทอดเจ, ข้าวผัดปลาเค็มเจ เป็นต้น และ อานตี้ แอนส์ (Auntie Anne’s) กับ Icy Trio เมนูเครื่องดื่มเจด้วย
ด้านนางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินว่าเทศกาลกินเจปีนี้จะมีลูกค้าให้ความสนใจจับจ่ายเลือกซื้ออาหารเจทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ บริษัทจึงจัดเตรียมสินค้าเจออกวางจำหน่ายกว่า 500 รายการ โดยเน้นไปที่อาหารพร้อมทานเป็นหลักซึ่งคาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้น 40% ภายใต้แคมเปญ “สะดวก อร่อย สุขกาย สุขใจ” โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาเมนูเจขึ้น เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก และคุณภาพที่ดี อาทิ โอนิกิริไส้ลาบเจ ข้าวคั่วกลิ้งเจ นํ้าพริกหนุ่มเจ ขนมปังไรซ์เบอร์รี่เผือกเจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลไม้สด ผักสด เครื่องปรุง และอาหารพร้อมทานจากครัวมลิวัลย์ที่ปรุงสดให้เลือกซื้อตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
“จากแนวโน้มลูกค้าที่เลือกซื้ออาหารเจผ่านบริการดีลิเวอรีที่มากขึ้น ในปีนี้แฟมิลี่มาร์ท จึงร่วมกับ Gobike และ Kerry Express ให้บริการจัดส่งอาหารเจถึงบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก และความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริการรับประทานในร้านซึ่งจะเปิดให้บริการ 2 สาขาได้แก่ ฮอลิเดย์อินน์สีลม และสุขุมวิท 33 ด้วย”
ทั้งนี้นอกจากเดอะ มอลล์สาขาในเขตกรุงเทพฯแล้ว เดอะมอลล์ โคราช ก็จัดงานเดอะมอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วอีสานขึ้น โดยไฮไลต์จะเป็นการจัดทำเมนูเจสุดพิเศษ โดยใช้ข้าวจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมอาหารเจต้นตำรับทั้งคาวหวาน อาทิ ข้าวผัดแปดเซียน, ข้าวอบเผือก, เส้นหมี่ข้าวสังข์หยดแกงเขียวหวานเจ ฯลฯ และกิจกรรม “๙ นี้เพื่อให้ ก้าวไปตามรอยพ่อ” กับผัดหมี่เจกระทะยักษ์การกุศลเพียงชุดละ 9 บาท หรือมากกว่าตามจิตศรัทธา รายได้จากการจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้ “มูลนิธิชัยพัฒนา” ด้วย
ขณะที่นางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คาดว่าเทศกาลกินเจปีนี้บิ๊กซีจะมียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 15% ซึ่งเป็นอานิสงส์มาจากประชาชนชาวไทยที่ต้องการรับประทานอาหารเจเพื่อทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยงาน “กินเจอิ่มใจ สดใหม่ที่บิ๊กซี” ในปีนี้จึงจัดเตรียมทั้งเบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ วัตถุดิบและอาหารปรุงสำเร็จกว่า 900 รายการมาจำหน่าย พร้อมตั้งจุดจำหน่ายอาหารพร้อมทานกว่า 20 เมนู เช่น ผัดผักสี่เซียน แกงพะแนงเจ แกงขี้เหล็กเจ แกงเผ็ดเป็ดย่างเจ ต้มกะหลํ่าปลีเจ ฯลฯ มีราคาเริ่มต้น 10 บาท ขณะที่วัตถุดิบเช่น ผักสด มีราคาเริ่มต้น 9 บาท ของสดเจ ราคาเริ่มต้น 13 บาท ผลไม้สด ราคาเริ่มต้น 25 บาท เบเกอรี่เจ ราคาเริ่มต้น 5 บาท และเสื้อผ้าขาว ราคาเริ่มต้น 125 บาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560
