ที่อู่ตะเภาวาละแสน จัดผัง30อำเภออีอีซี
อู่ตะเภา-สัตหีบฮอตที่พุ่งรับฮับการบินอีอีซี ตร.ว.ละ 1 แสนบาท กรมโยธาฯ เด้งรับ กม.ใหม่ ปรับใหญ่ เตรียมคลอดผังอำเภอ 30 แห่งอีอีซี หนุนลงทุน
การกำหนดให้สนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลางการบินตามโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่งผลกระทบทันทีต่อราคาที่ดินและการพลิกโฉมการพัฒนาในอนาคต
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ราคาที่ดินตั้งแต่สนามบินอู่ตะเภา และสัตหีบ ขณะนี้ตารางวาละ 100,000 บาท ซึ่งมีนักลงทุนให้ความสนใจซื้อที่ดินพัฒนา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นฮับการบิน
แน่นอนว่า พื้นที่โดยรอบต้องมีผังเมืองควบคุม ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมืองมอบบริษัทที่ปรึกษาศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมรัศมีรอบสนามบินอู่ตะเภา กำหนดโซนพัฒนาเชิงพาณิชย์ รองรับนักลงทุน-นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านช่องทางสนามบิน ขณะเดียวกัน ยังกันพื้นที่ส่วนหนึ่งรองรับการขยายตัวของสนามบินในอนาคต
ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวกรมโยธาธิการกล่าวว่า ได้วางผังพัฒนาพื้นที่เฉพาะบริเวณพื้นที่ไข่ขาว ซึ่งเป็นที่ดินเอกชนรอบสนามบินครอบคลุม อำเภอบ้านฉาง เมืองชลบุรี สัตหีบ ท่าเรือจุกเสม็ด เป็นต้นเพื่อสนับสนุนพื้นที่ไข่แดงคือ สนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นที่ดินทหาร
ด้านนายมณฑล สุดประ เสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเผยว่าเร่งวางผังเมืองรวมอำเภอ เพื่อรองรับอีอีซี รวม 3 จังหวัด 30 อำเภอ ซึ่งเป็นผังย่านในพื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี 11 อำเภอ ระยอง 8 อำเภอ และฉะเชิงเทรา 11 อำเภอ และหากอำเภอใดมีผังเมืองควบคุมอยู่แล้วจะปรับให้สอดรับกับนโยบายการลงทุน และอำเภอไหน ยังไม่มีผังเมืองควบคุม จะเร่งออกข้อกำหนดให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
อธิบดีกล่าวต่อว่าขณะนี้ 2 พื้นที่ที่แก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดให้พัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม แล้ว คือ อีอีซีดีหรือเขตดิจิตอลเนื้อที่ 500 ไร่ ที่แหลมฉบัง และอีอีซีไอ หรือเขตนวัตกรรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่วังจันทร์ วัลเลย์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ที่มุ่งพัฒนา อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ฯลฯ ขณะเดียวกัน จะวางผังควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินครอบคลุม 3 จังหวัดอีอีซี เพื่อให้การพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน แต่จะพิจารณาความสมดุลไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อมชุมชน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560
การกำหนดให้สนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลางการบินตามโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่งผลกระทบทันทีต่อราคาที่ดินและการพลิกโฉมการพัฒนาในอนาคต
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ราคาที่ดินตั้งแต่สนามบินอู่ตะเภา และสัตหีบ ขณะนี้ตารางวาละ 100,000 บาท ซึ่งมีนักลงทุนให้ความสนใจซื้อที่ดินพัฒนา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นฮับการบิน
แน่นอนว่า พื้นที่โดยรอบต้องมีผังเมืองควบคุม ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมืองมอบบริษัทที่ปรึกษาศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมรัศมีรอบสนามบินอู่ตะเภา กำหนดโซนพัฒนาเชิงพาณิชย์ รองรับนักลงทุน-นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านช่องทางสนามบิน ขณะเดียวกัน ยังกันพื้นที่ส่วนหนึ่งรองรับการขยายตัวของสนามบินในอนาคต
ด้านนายมณฑล สุดประ เสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองเผยว่าเร่งวางผังเมืองรวมอำเภอ เพื่อรองรับอีอีซี รวม 3 จังหวัด 30 อำเภอ ซึ่งเป็นผังย่านในพื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี 11 อำเภอ ระยอง 8 อำเภอ และฉะเชิงเทรา 11 อำเภอ และหากอำเภอใดมีผังเมืองควบคุมอยู่แล้วจะปรับให้สอดรับกับนโยบายการลงทุน และอำเภอไหน ยังไม่มีผังเมืองควบคุม จะเร่งออกข้อกำหนดให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
อธิบดีกล่าวต่อว่าขณะนี้ 2 พื้นที่ที่แก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดให้พัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรม แล้ว คือ อีอีซีดีหรือเขตดิจิตอลเนื้อที่ 500 ไร่ ที่แหลมฉบัง และอีอีซีไอ หรือเขตนวัตกรรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่วังจันทร์ วัลเลย์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ที่มุ่งพัฒนา อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ฯลฯ ขณะเดียวกัน จะวางผังควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินครอบคลุม 3 จังหวัดอีอีซี เพื่อให้การพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน แต่จะพิจารณาความสมดุลไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อมชุมชน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560
